....เริ่มแล้ว เดชแม่ยายBYนีโอ...ภาค ปฐมบท
....เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 19 ปีที่แล้ว...
...ที่ท้ายหมู่บ้านนางรอง มีเรือนไม้เสากลมมุงหลังคาด้วยหญ้าแฝกอยู่หลังหนึ่งตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นของตัวเอง แต่มันเป็นเนินใช้เพาะปลูกอะไรไม่ได้ เนินนี่กินเนื้อที่เกือบๆ 10 ไร่ ในเรือนหลังนั้นมี พ่อ แม่และลูกชายวัยประมาณ 19 ปีอาศัยรวมกันอยู่ ลูกชายคนนี้หน้าตา อื่มม....เอาเป็นว่า หน้าตาดีพอใช้ได้ก็แล้วกัน รูปร่างของเขาสูงใหญ่ ท่าทางคร่องแคร่ว พูดจาเอะอะเสียงดัง และค่อนข้างก้าวร้าว ด้านการเรียนการศึกษาก็ระดับม.3 ผลการเรียน ดีบ้างไม่ดีบ้างตามอารมณ์ และตอนนี้ก็ไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว ครอบครัวนี้มีฐานะค่อนข้างจะยากจน แม้นผู้เป็นพ่อและแม่จะขยันทำงาน แต่ก็หาได้มาไม่พอค่าใช้จ่าย ฝ่ายลูกชายก็ไม่เอาอ่าวหวังจะพึ่งพาอะไรก็ไม่ได้เลย ตั้งเลิกเรียนหนังสือมาก็เอาแต่เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆสุมหัวเชวนกันล่นการพนันและมีเรื่องมีราว ตีหัวหมาด่าโคตรเจ๊กตามประสาวัยรุ่นเกเรทั่วไปเป็นวันๆ สร้างความผิดหวังให้สองผัวเมียยิ่งนักที่มีลูกไม่ได้ดั่งใจ ช่างน่าสงสารผัว เมียคู่นี้..... ครับ....เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือ...เอ่อ...ผมเองนี่แหละ...
…ผมเป็นวัยรุ่นในยุค 2530 ของไทยหรือยุค “80ต่อ”90 ของฝรั่งนั่นแหละครับ เป็นวัยรุ่นบ้านนอกในยุคที่ยังไม่รู้จักมือถือหรือBB ไม่รู้จักคอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน๊ต เป็นยุคคาบต่อระหว่างโลกเก่าและโลกแห่งเทคโนโลยี่ที่กำลังจะเจริญเข้ามาคลอบคลุมและคลอบงำ วัยรุ่นยุคนี้เป็นรุ่นบุกเบิกที่จะประสานสิ่งเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน และเป็นวัยรุ่นยุคที่ไม่ต้องการเหตุผลนอกจากความเท่ส์แบบดิบๆเถื่อนๆอีกด้วย
...วันนี้ที่ชายทุ่งท้ายๆไร่ของเรือนหญ้าแฝกผมอันเป็นที่ลับหูลับตา มันได้ถูกตั้งเป็นบ่อนลับของผมที่มักจะชวนพวกชาวบ้านที่ชอบเสี่ยงโชคมาเล่นการพนันเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกันผมรับเป็นเจ้ามือเขย่าไฮโลว์ มีเจ้าคมลูกน้องคนสนิทที่มักตามติดผมเป็นประจำคอยเป็นผู้ช่วย “เอาล่ะ...พี่เขาเขย่าเสร็จแล้วแทงๆๆๆแทงเลย แทงเสร็จเอามืออกด้วย” เจ้าคมบอกชาวบ้านเมื่อชาวบ้านวางเงินเสร็จ เจ้าคมก็ค่อยๆเปิด”เจ้ามือกินอีกแล้ว...ขอบคุณครับ”เสียงชาวบ้านร้องฮู้....บ่นกันเซ็งๆ”แม่ง...เจ้ามือ แด๊กอย่างเดียว หมดตูดแล้วโว้ย....กลับๆๆๆๆ”ชาวบ้านลุกขึ้นพากันกลับไปอย่างผิดหวัง เจ้าคมเก็บเงินเดิมพันมานับหัวเราะอย่างมีความสุข”แหมได้เยอะเลยพี่วันนี้...เฮงๆๆๆๆ”เจ้าคมหัวเราะร่วน ส่วนผมก็ตาลอยวาดหวัง”คืนนี้ที่งานวัด กูจะเอาเงินนี่พา สร้อย ไปเที่ยวให้ชุ่มเลย...”เจ้าคมนับเงินแล้วแบ่งให้ผม”เอาพี่ส่วนของพี่ ขอให้เที่ยวให้สนุกน่ะ แหม...หมูจริงๆ มีหมูมาอย่างนี้ทุกวันก็ดีน่ะสิ” วันนี้นับว่าเราโชคดีที่มีหมูมาให้เชือดเยอะแยะเลยมีเงินแบ่งกันมากกว่าทุกครั้ง “เอาล่ะเดี๋ยวเราแยกย้ายกันกลับแล้วคืนนี้ไปเจอกันที่งานวัดนะ” แล้วผมเอาเงินส่วนแบ่งที่ได้มากโขเดินกลับบ้าน วาดฝันจะพาสร้อยเดินเที่ยวในงานและชื้อเสื้อผ้าสวยๆตลอดจนของที่เธออยากได้ให้ด้วยความสุขใจ...
....ผมเดินลัดเลาะมาเรื่อยๆตามทาง ที่ของพ่อกับแม่ของผมนี่ก็กว้างน่าดู เสียอย่างเดียวที่ตรงนี้มันเป็นดินเหนียวปนทรายเพาะปลูกทำอะไรก็ไม่ได้”ว่าไงล่ะพี่...ชวนพวกชาวบ้านมาเล่นการพนันอีกแล้ว เมื่อไหร่พี่จะทำงานทำการเป็นเรื่องเป็นราวเสียที” เสียงของสร้อย สาวงามของหมู่บ้านนั่นเอง และเธอก็เป็นแฟนของผมด้วย”อ้าว...สร้อยมาได้อย่างไง พี่กำลังคิดถึงอยู่เลย”ผมไม่พูดเปล่ารวบตัวสาวคนรักมากอดมาหอมพัลวัลอย่างหื่นกระหาย”ปล่อยๆๆๆบ้าเรอะ ตายอดตายอยากมาจากไหน กลางวันแสกๆ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อายเขาน่ะ”สร้อยก็ห้ามไปอย่างงั้นเอง เพราะเธอก็ไม่ได้ดิ้นรนสะบับขัดขืนอะไรจริงจัง”แหม..ใครจะผ่านมาเห็นเล่า กลางดงกลางป่าอย่างงี้ มามะ..มาให้พี่ชื่นใจหน่อย…พี่คิดถึงจังเลย” ผมกอดหอมสร้อยจนร่างของเราเสียหลักล้มลงไปที่พุ่มไม้ข้างทาง ร่างของผมนอนทับร่างของเธอ ผมซุกไซร้ กอด จูบ บีบคลึงจนสร้อยหายใจหอบๆ”พอ...พอ...พอก่อนพี่...เดี๋ยวสร้อยมีอารมณ์..”ผมไม่สนใจ ยังคงซุกไซร้ไม่หยุด”มีก็มีไปสิ...มีกับพี่ไม่เป็นไร อย่าไปมีกับคนอื่นล่ะกัน..”ตอนนี้ในสมองของผมมันคิดแต่จะผสมพันธ์กับสร้อยอย่างเดียวแล้ว
....สร้อยซึ่งไม่คิดจะดิ้นอยู่แล้ว นอนนิ่งๆให้ผมกอดจูบตามใจ จนผมแปลกใจล่ะจากร่างแน่นเนื้อของคนสวยประจำหมู่บ้าน พลางถามด้วยความสงสัย”ทำไมไม่ดิ้นเลยเล่า คราวนี้งอนอะไรอีก...”สร้อยยังนอนเฉยมองผมด้วยสีหน้าปรกติ”ดิ้นก็โดนไม่ดิ้นก็โดน จะขัดขืนทำไม ทำต่อสิ”ผมผละจากร่างงามมานั่งข้างๆอย่างหมดอารมณ์ สร้อยยังนอนหงายอยู่ มองผมยิ้มๆ นี่คือไม้ตายของสร้อยหากไม่อยากให้ผมร่วมรักกับเธอ เธอจะนอนเฉยๆ และใช้ได้ผลกับผมมาตลอด แต่กับคนอื่นรับรองไม่รอด”แล้วมาหาพี่ทำไม ถ้ามาแล้วไม่ให้ทำอะไรอย่างนี้น่ะ” สร้อยลุกขึ้นนั่งเอามือสางและเสยผมให้เข้าที่ “พี่นี่...คิดกับสร้อยเป็นเรื่องเดียวรึไงเนี่ย...วันนี้ สร้อยจะมาบอกพี่ว่า ครูสมบูรณ์นะ เขามาทาบทามสร้อยแล้วน่ะ จะขออะไรก็รีบขออย่ามัวรออย่ามัวช้าน่ะ ดูท่าพ่อกับแม่เขาจะยกสร้อยให้ครูคนนี้แน่”ผมใจหายวาบ ไอ้ครูหนุ่มนั่นนะรึ ผมเห็นมันทำท่าชอบพอสร้อยมานานแล้ว แต่สร้อยไม่เล่นด้วยและไม่สนใจมันแต่มันก็ตามตื้อมาตลอด และเมื่อมันเข้าทางสร้อยไม่ได้ มันก็มาเข้าทางพ่อ แม่ของ สร้อย และด้วยรูปร่างและฐานะ พ่อและแม่ที่ดีเขาก็อยากให้ลูกสาวได้กับคนดี คนที่มีอนาคต “แล้วสร้อยจะให้พี่ทำอย่างไง ให้พี่ไปขอสร้อยตัดหน้ามันก่อนไหม...”ผมทำหน้าทะเล้นเหมือนไม่รู้สึกอะไร สร้อยมองผมแล้วสีหน้างามๆดูเป็นทุกข์ไปถนัด “พี่...อย่าทำเป็นพูดเล่นสิ สร้อยจริงจังน่ะเรื่องนี้...”ผมมองหน้าแฟนสาวแล้วรู้สึกว่าวันนี้เธอดูเศร้าๆเกินปรกติอย่างไงชอบกล...
....”น่า...ใจเย็นๆสร้อย ถ้าเธอไม่ยอมใครจะบังคับเธอได้ แล้วพี่จะรีบหาเงินไปสู่ขอเธอ”ผมให้สัญญากับแฟนสาว และมันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้”พี่...พี่เจาะไข่สร้อยมาตั้งแต่อายุ16แล้วนะ พี่พูดอย่างนี้มาตลอด นี่ถ้าไม่แอบกินยาคุมล่ะก้อ สาม-สี่ท้องแล้ว ไม่รู้ล่ะ...ถ้าสิ้นเดือนนี้พี่ไปขอสร้อยไม่ได้ล่ะก้อ สร้อยได้เปลี่ยนผัวใหม่แน่”ผมรีบกอดร่างของสาวคนรัก พลางปลอบให้สัญญา”แหมพูดอะไรอย่างนั้นเล่าสร้อย ฟังดูไม่ดีเลย น่า...เชื่อพี่เหอะ ไงๆๆพี่ก้อไม่ปล่อยให้สร้อยไปเป็นของคนอื่นได้หรอก ปีนี้น่ะ พี่จะหาเงินไปขอสร้อยให้ได้ ตอนนี้พี่กำลังเก็บอยู่”สร้อยสะบับตัวออกจากอ้อมกอดของผม”เก็บอยู่...เก็บมากี่ปีแล้ว เอาแต่หลอกฟันสร้อยไปวันๆ พ่อกับแม่ของสร้อยเขาเกลียดพี่จะตาย เพราะพี่ไม่ทำงานนี่แหละ ถ้าพี่ขยันล่ะก้อ ป่านนี้เขายกให้ฟรีๆแล้ว...”ผมพยายามคลานตามไปกอดร่างอวบของสร้อย ซุกหัวไปที่เต้านมคู่งาม”เอาน่า...พี่สัญญา พี่จะทำงานจริงๆแล้วคราวนี้ แล้วทุกคนในหมู่บ้านนางรองจะได้รู้ว่า พี่เปลี๋ยนไป๋...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า....”ผมลุกขึ้นยืนกางแขน มองไปที่หมู่บ้าน “แล้วพี่จะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆตรงนี้ให้สร้อยมาอยู่ สร้างศาลามีโต๊ะไว้กินกาแฟตรงนี้ แล้วตรงโน้นน่ะ.จะมีไอ้นั่น..ตรงนี้จะเป็นไอ้นี่....”ผมจินตนาการบอกสาวคนรักถึงความฝันและวาดวิมานกลางอากาศให้เธอฟัง สร้อยส่ายหัวมองผมอย่างปลงๆ”อย่าเพ้อเลยพี่ เอาแค่ค่าสินสอดของสร้อยตอนนี้หาให้ได้สักก่อนเถอะ”สร้อยเอ่ยเบรกผมให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง”งั้นขอพี่ก็แรงใจหน่อยดิ...พี่จะได้มีพลังไปหาเงินมาขอเธอได้..”สร้อยถอนหายใจ”อีกแล้ว...สร้อยขาดทุนตลอด..”ผมเดินเข้ากอดร่างของสาวคนรัก กดร่างนั้นลงพื้น”สร้อย จำไว้เธอเป็นผู้หญิงที่พี่รักมากที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ก้อจะรักเธอตลอดไป และ พี่จะไม่มีวันหยุดรักเธอ”สร้อยเอื้อมสองมือมากอดคอของผมพลางส่งเสียงเกือบจะเป็นกระซิบ”สร้อยเองก็เหมือนกัน... “
.... ผมจูบเบาๆไปที่ใบหูของสร้อย ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อจากชายเสื้อด้านลางของสร้อยของ เธอไม่ขยับ ทำให้ผมย่ามใจ ปลดตะขอบราตัวน้อยของเธอ ผมค่อยๆดึงเสื้อเธอขึ้นไปจนถึงรักแร้ซึ่งสร้อยก็ยกแขนขึ้นยอมให้ผมถอดออกอย่างง่ายดาย เรือนร่างท่อนบนขาวนวลของสร้อยเปลือยเปล่าต่อหน้าของผม เธอยกสองมือปิดที่นมคูงามของเธอและเอียงกายหลบสายตาหื่นกระหายของผม แต่ผมก็ดึงร่างเธอเข้ามาแล้วบรรจงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง มือล้วงลอดมือที่ปกปิดของเธอไปสัมผัสกับเต้านมขนาดกระทัดรัด ของสาวคนรักวัยแรกรุ่น
...ผมจับร่างของเธอนอนลงและปลดตะขอกางเกงขาสั้นสามส่วนออก แล้วรูดลงไป สร้อยขยับช่วยยกสะโพกขึ้น จนกางเกงหลุดออกไปพร้อมกางเกงในตัวน้อยเผยให้เห็นแก้มก้นขาวนวลมีขนอ่อนสะท้อนแสงแดดเป็นสีเงิน จนผมอดไม่ได้ที่จะแนบหน้าลงไปสัมผัส สร้อยหนีบขาจนชิดนอนหลับตาพริ้มหน้าแดงซ่าน รอสัมผัสในสิ่งที่ผมจะทำให้เธอด้วยใจระทึก
....ผมลุกขึ้นนั่งยองๆ แล้วถ่างขาของสร้อยออกเล็กน้อย กลิ่นสาวแรกรุ่นคลุกลุ่นน่าดมดอมยิ่งนัก ผมก้มลงโลมลิ้นไปที่ร่องรูของสร้อยที่ฉ่ำน้ำสาวรินไหลออกมาอย่างมากมาย ผมล้วงนิ้วไปตามร่องก้นจนถึงร่องเสียวของสร้อย ซึ่งมีน้ำชุ้มชื้นไปหมด และได้สัมผัสเส้นไหมเส้นเล็กตรง ที่เรียงตัวไปตามร่องน้ำฉ่ำ ความรู้สึกของผมตอนนี้ไม่อาจหยุดยั้งอะไรได้อีกแล้ว ผมก้มลงบรรจงลากลิ้นไปตามร่องน้ำนั้น กลิ่นกายอันหอมระรื่นของสาวคนรักของผมสร้างความรู้สึกหื่นกระหายให้กับผมเพิ่มเป็นทวีคูณ
…สร้อยบิดกายสะท้านร้องครางเมื่อเจอลิ้นของผมจู่โจมไปในจุดเสียว ร่างสาวบิดไปมาร้องไม่เป็นภาษา
“อะ...อะ....อะ.....อูย....พี่....สะ....สร้อย....โอ้ย....ทำไม....อูย.....”
...ผมยังก้มหน้าใช้ลิ้นต่อไป สร้อยทั้งร้องทั้งบิดกายเสียวซ่านร้องครางเสียงลั่นทุ่ง แต่ต่อให้ร้องดังอย่างไงก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะเนินที่ผมอยู่มันไกลผู้ไกลคน...
…”อูยยยยยย......พะ.....พะ.....พะ.....พี่.....พอแล้ว.....สร้อยใจจะขาดแล้ว......”
...ผมเงยหน้าที่เปอะน้ำรักของสร้อย แล้วเลื่อนกายขึ้นทาบทับร่างนวลงาม ผมจับขาของเธอกางออก และแทรกตัวเข้าไป พยายามเอาท่อนเอ็นของผมไปจ่อตรงร่องนั้น ผมค่อยๆดันมันเข้าไป ทั้งที่มีน้ำรักอยู่เต็มไปหมด แต่มันกลับเข้าไปได้นิดเดียว ผมพยายามดันมันอีกครั้ง สร้อยสะดุ้งลืมตาขึ้นและพยายามดันหัวไหล่ผมออก
"พี่.....สร้อยเจ็บ..... พี่.....จริงๆ... พี่......สร้อยเจ็บเจ็บ" เสียงสร้อยร้องบอกอาการกับผม
..... ผมไม่พูด แต่ก้มหน้าลงประกบจูบปากของสร้อยแทน เพื่อให้เธอผ่อนคลายอีกครั้ง สร้อยถอนหายใจเคริ้มไปกับรสจูบของผม ผมถือโอกาสนี้ดันเข้าท่อนเอ็นสุดแรงจนมันผลุบหายไปทั้งดุ้นในร่องสาว สร้อยผวาอ้าปากร้องอ้ากกกก...แล้วดันไหล่ผมออกอย่างแรง แต่ไม่ลืมตา ส่วนผมหอบหายใจน้อยๆ
.... ผมเริ่มขยับซ้ายขวาอย่างแผ่วเบา จนสร้อยเริ่มผ่อนคลายไม่เกร็งแล้ว จึงเริ่มขยับเข้าออกเบาๆ แล้วค่อยๆเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ....สร้อยเริ่มร้องครวญครางจิกเล็บลงบนต้นแขนผมจนรู้สึกเจ็บ
... ผมบรรจงกระเด้าซอยใส่ร่างสาวคนรัก เสียงร้องด้วยความเสียวซ่านของสร้อยดังระงมแข่งกับเสียงเนื้อกระแทกเนื้อ ผมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยร้า แต่ยังตั้งหน้าตั้งตาอัดท่อนเอ็นใส่อย่างไม่หยุดยั้ง จนกระสร้อยเริ่มหายใจหนักๆสลับกับหายใจสั้นๆ
...สักพักสร้อยก็ผวากอดเอวของผมแน่น เสียงหายใจเหมือนจะขาดใจ.
.”..อูยยยยยย....ไม่ไหว....แล้ว....สร้อย...ออกแล้ว....ออกมาแล้ว.....” ภายในของสร้อยบีบรัดปลายท่อนเอ็นของผมเป็นจังหวะถี่ๆ จนผมเสียวมาก "สร้อย...พี่ก้อ...ไม่...โอ้ยยยยยย....." ผมปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างใส่ไปในร่องรูอย่างพรั่งพรู แล้วผมก็ฟุบลงบนอกอวบของสร้อย เรานอนหายใจแข่งกันอยู่พักใหญ่ สร้อยลืมตาปลือมองผม ผมเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอบ่งบอกถึงอารมณ์ที่สุขสมและหลงใหลผม ก่อนที่เธอจะกอดร่างของผมแน่นแนบไปกับร่างของเธออีกครั้ง
....สร้อยยังคงนอนหนุนแขนของผมซุกหน้ามาที่หน้าอกที่มีแต่มัดกร้าม ความสุขที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังซาบซ่านติดตรึงใจ ผมเอามือลูบไล้ไปบนเส้นผมยาวนุ่มของสร้อย เธอซุกตัวแน่นเข้ามาอีก”พี่...สร้อยไม่อยากอยู่ในสภาพนี้อีกแล้วน่ะ สร้อยเบื่อต้องมาลักกินขโมยกินกันอย่างนี้...”ผมยังคงนอนนิ่งใช้ความคิดอย่างหนัก ผมปล่อยเวลาล่วงผ่านมาเนิ่นนานเกินไปแล้ว ผมควรจะสร้างอนาคตของตัวเองสักที แต่จะเริ่มตรงไหนนี่สิที่คิดไม่ออก”อดทนหน่อยสร้อย พี่เองก็ไม่อยากหลบๆซ่อนๆอย่างนี้เหมือนกัน แต่พี่ยังไม่พร้อมนะสิ” ผมพยายามที่จะปลอบใจแฟนสาว”ยังไม่พร้อม แล้วเมื่อไหร่พี่จะพร้อมสักที ปีหน้าสร้อยจะ 18เต็ม แล้วน่ะ เพื่อนๆมันมีผัวเป็นตัวเป็นตนกันไปหมดแล้ว สร้อยยังลับๆล่อๆ มาโดนพี่ล่ออยู่แต่ที่ลับๆ สร้อยเบื่อสภาพนี้และเบื่อจะรอแล้วน่ะเนี๋ย...”สร้อยผุดลุกนั่งหยิบเสื้อผ้ามาใส่”ไม่รู้ล่ะ...ถ้าไม่รีบจัดการไปสู่ขอสร้อยให้เป็นเรื่องเป็นราว สร้อยจะหาผัวใหม่แล้ว เสียตัวแค่นี้สร้อยไม่ตายหรอก นึกว่าให้หมามันกิน...”สร้อยแต่งตัวเสร็จทำท่าจะเดินหนีไป ผมลุกมาฉุดมือรั้งสาวคนรักไว้”โอ้ยยยย....พูดอย่างงี้ได้ไงเนี๋ย ไม่นึกถึงที่เคยรักเคยลำบากกันมาเลยหรือไง จะทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เรอะ สร้อยใจร้ายยยย...” สร้อยสะบับเบาๆทำนองงอนแต่พองาม”ก็เพราะสร้อยคิดนะสิ ถึงยอมให้ถึงขนาดนี้ ไม่งั้นไม่ได้แอ้มสร้อยหรอก...”ผมรั้งร่างสาวเข้ามากอด หอมซ้าย-ขวา”พูดเก่งนักต้องเจออีกดอก....”
....เกือบบ่ายๆกว่าผมพาสร้อยเดินลัดเลาะมาถึงบ้าน หน้าบ้านมีรถกะบะโตโยต้ารุ่นไฮลักซ์-ฮีโร่ ที่ใช้ดาราพระเอกชื่อดังโฆษณาคันใหม่เอี่ยมจอดอยู่ ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน แป๊ะฮง เศรษฐีเงินกู้ประจำหมู่บ้านกำลังคุยกับพ่อและแม่ผมอย่างเคร่งเครียด ท่าจะมาทวงหนี้อีกแล้ว ผมเดินไปถึงใกล้ก็ได้ยินเสียงทวงเงินอย่างเกรี้ยวกราดจาก แป๊ะฮง”อารายว่ะ ม่ายมีๆ ลื้อบอกมาหลายครั้งแล้ว อั๊วะก็ผัดผ่อนให้มาตลอด จนตอนนี้มันเกินกำหนดมา 5 เดือนเลี้ยว”เสียงพ่อพยายามขอผ่อนผันแต่แป๊ฮงก็ไม่ยอมและยื่นคำขาด”หากวันนี้ ถ้าลื้อไม่มีจ่ายอั๊วะ พวกลื้อก็ต้องยกที่ตรงนี้ให้อั๊วะ แล้วพวกลื้อก็ต้องย้ายออกไป ถ้าไม่ย้ายก็ต้องเช่าอั๊วะอยู่”ผมฟังแล้วให้ขัดใจ เดินเข้าไปใกล้วงสนทนา แป๊ะฮงมองมาที่ผมแต่ไม่สนใจว่าไงลื้อสองคนจะว่าไง”มันยังคงเคี่ยวเข็ญคาดคั่นคำตอบ ที่ตรงนี้ตกทอดมาตั้งแต่ปู่ย่าเป็นที่พักอาศัยอยู่กันมาหลายรุ่น แต่เพราะพ่อต้องหาเงินไปเช่าที่ทำนาจึงเอาที่ไปจำนองไว้กับแป๊ะฮง อย่างว่าฝนแรงติดๆกัน 2 ปีพ่อเลยไม่มีเงินใช้หนี้”ขอผัดผ่อนไปอีกหน่อยไม่ได้หรือ ที่ตรงนี้ข้าต้องรักษาไว้ เงินแค่ 30000เองน่ะ ที่ตั้ง 10 ไร่ ข้าปล่อยหลุดไม่ได้หรอก”แป๊ะฮงหัวเราะจนฟันทองสะท้อนแสงแดดวาบวับ”ลื้อพูดมาได้ เงินแค่ 30000 เอง แล้วลื้อมีปัญญาใช้หนี้อั๊วะไหม มีไหม ตอนนี้อย่าว่าแต่ 30000 เลย ค่าดอก 3000ลื้อยังไม่มีจ่ายเลย”ผมกัดฟันกรอดที่แป๊ะฮงมันดูถูก แต่ก็ได้แต่ทนฟัง”เอาล่ะ...อั๊วะไม่รออะไรแล้ว อาเม้ง ลื้อเอาสัญญามาให้อีเซ็นยกที่ให้อั๊วะเร็ว...”สิ้นคำ อาตี๋หน้าตากวนๆนามไอ้เม้งก็เดินเอาสัญญามาวางบนแคร่ข้างหน้าพ่อ”เอ้า...รีบๆเซ็นซ่ะ....”แป๊ะฮงย้ำกับพ่อ แต่พ่อยังคงเงียบเฉย
.... ระหว่างนั้นเองมีเด็กน้อยอายุราวๆ 2 ขวบ เดินเต๊าะแตะมาเกาะขาผม ท่าทางเป็นเด็กผู้หญิง ผิวพรรณขาวหน้าน่าเอ็นดู เด็กน้อยยิ้มให้ผมและพยายามทำท่าจะให้ผมอุ้ม แม้นผมจะไม่ใช่คนรักเด็กแต่ทำไมผมรู้สึกชอบเด็กน้อยคนนี้จัง ผมยิ้มและก้มลงจะไปอุ้ม แต่ไอ้เม้งรีบวิ่งมาอุ้มคงจะเป็นลูกของมัน”อากิมลั้ง..ลื้อปล่อยอาลี่มาเดินเล่นอย่างงี้ได้ไง เกิดอีหกล้ม เป็นอะไรไปจะว่ายังไง ดูแลลูกให้ดีหน่อย...”ไอ้เม้งหันไปต่อว่าเมียที่นั่งรออยู่ในรถ “ขอโทษเฮีย อั๊วะกำลัง เปิดวิทยุหานิยายคณะเกศทิพย์ฟังอยู่ ส่งอาลี่มาให้อั๊วะมา”เมียสาวร่างท้วมของไอ้เม้งเดินมารับเด็กน้อยและอุ้มพากันไปนั่งในรถ ผมมองตามไปและเด็กน้อยก็ดิ้นร้องไห้งอแงโบกไม้โบกมือจะมาหาผมให้ได้ เอเห็นเด็กคนนี้ทำไมผมรั้สึกแปลกๆ
....แต่กลับมาตรงพ่อนั่ง ดูพ่อจะหมดหนทางต่รองกับแป๊ะฮงแล้ว แม่ทำท่าจะน้ำตาซึมสร้อยที่มากับผมก็ดูจะอึดอัดแทน”อ้าว..เมื่อไหร่จะเซ็นสักทีเล่า อั๊วะรอนานแล้วน่ะ อั๊วะมีธุรกิจเยอะน่ะ มารออย่างนี้เสียเวลา”แล้วแป๊ะฮงก็เดินมาพร้อมตลับหมึกจับมือของพ่อเอานิ้วโป้งแตะหมึก พ่อพยายามขัดขืนแต่แป๊ะฮงเรียกไอ้เม้งมาช่วยกันจับบังคับให้พ่อแปะโป้งในกระดาษยกที่ให้ ผมสุดทนแล้วเดินไปกระชากร่างไอ้เม้งเหวี่ยงมันปลิวไป และดึงร่างของพ่อออกมาจากการยื้อยุดของแป๊ะฮง”พอแล้วแป๊ะ ทำกันอย่างกับไม่ใช่คน คุยกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้” ไอ้เม้งที่ถูกเหวี่ยงไปมันลุกขึ้นมาได้ก็โวยวาย”เฮ้ย...มึงกล้าทำกับกูหยั่งงี้เลยรึ มึงตาย...”แล้วมันก้รำมวยจีนพุ่งร่างเข้ามาหาผม แต่ถูกผมถีบสวนทีเดียวหงายท้องลงไปนอนกับพื้น เมียร่างท้วมของมันรีบวิ่งมาประคองถามอาการ ขณะลูกสาวของมันปรบมือหัวเราะอย่างชอบใจ แป๊ะฮงทำท่าตกใจแต่ยังฝืนพูดข่ม”เฮ้ย...ลื้อนี่ อั๊วะมาทวงเงินดีๆทำไมถึงต้องทำร้ายกันด้วย”ผมมองหน้ามันตาแข้งกร้าว”ก็แป๊ะ ทำร้ายพ่อข้าก่อนนี่” แป๊ะฮงทำท่ากวนๆ”ทำร้ายตรงไหน เห็นๆกันอยู่ว่าลื้อทำร้ายอั๊วะกับลูก อั๊วะจะไปแจ้ง หมาต่า มาจับลื้อว่าทำร้ายร่างกายอั๊วะกับลูกชายอั๊วะ”ผมปรี่เข้าไปหาหมายชกหน้าของมันสักทีแต่สร้อยและแม่ผมเข้ามาห้ามไว้”ใจเย็นๆก่อนพี่ ค่อยๆพูดกันดีๆก็ได้ อย่ามีเรื่องเลย”สร้อยพูดห้ามผมแล้วหันไปคุยกับแป๊ะฮง”อาแป๊ะก้อผ่อนผันให้พี่กับพ่อเขาหน่อยไม่ได้รึ เงินก็ไม่ใช่มากมาย ยึดที่ของเขาอย่างนี้มันโหดร้ายไปหน่อยนะ”แป๊ะฮงถึงจะหวาดๆ แต่ยังวางมาด”อั๊วะปล่อยเงินกู้น่ะ ไม่ใช่มูลนิธิถึงจะช่วยเหลือพวกมันฟรีๆได้ ถ้าวันนี้มันไม่จ่ายดอกอั๊วะ อั๊วะก็ต้องยึดที่ของพวกอี”แป๊ะฮงยืนยันเจตนา”แล้วดอกมันเท่าไหร่ว่ะ”ผมถามมัน แป๊ะฮงชูนิ้วขึ้นมา 3 นิ้ว”3000โว้ย...”ผมล้วงเงินที่ได้จากการเล่นไฮโลว์มานับได้ 2400 รวมกับของพ่อได้ 2600 สร้อยถอนหายใจหยิบกระเป๋ามาเปิดเอาเงินออกมานับแล้วยื่นให้ผมนำมารวมกันได้ 2990 บาท”เอ้านี่เงิน...ขาดไป 10 บาท ลื้อจะเอาไหม”ผมยื่นเงินให้มัน แป๊ะฮง รับไว้”ก็ได้ๆๆๆวันนี้อั๊วะลดให้ 10 บาท แต่คราวหน้าอั๊วะไม่ยอมน่ะ แล้วก็เร่งหาเงินต้นมาใช้อั๊วะไวๆด้วย อย่าให้อั๊วะมาเสียเวลาอย่างนี้อีก แล้วแป๊ะฮงก็ยกคณะกลับไป แต่ไอ้เม้งมันยังมองผมด้วยสายตาอาฆาติก่อนจะกลับไป
....ผมและสร้อยช่วยกันประคองพ่อมานั่ง หลังๆมานี่พ่อดูไม่ค่อยแข็งแรง คงเพราะตรากตำทำงานมาหนักมามาก และสภาพจิตใจย่ำแย่เพราะขาดทุนจาการทำนาที่ได้ผลไม่สมกับแรงที่ทุ่มเทไปมาตลอด”ขอบใจน่ะสร้อย ที่ช่วยพวกเรา แต่ไม่น่าลำบากเลยน่ะหนู”สร้อยยิ้มให้ว่าที่พ่อผัว”ไม่เป็นไรหรอกอา เล็กๆน้อยๆน่ะ สร้อยยินดีช่วย”เรานั่งคุยกันสักพัก สร้อยก็ขอตัวกลับ ผมเดินมาส่งแล้วผ่านต้นมะค่าตรงทางเข้าบ้านผม “เดี๋ยวสร้อย รอเดี๋ยว”ผมหยิบมีดพกออกมาเดินไปกรีดต้นมะค่าสลักเป็นตัวหนังสือว่า”พี่รักสร้อย”สร้อยเดินตามมาดูหัวเราะคิกๆ”บ้า....นึกว่าทำอะไร”ผมสลักเสร็จก็หันมากอดร่างของสร้อยแล้วหอมแก้มอุตลุด”ยังไม่อิ่มอีกรึเมื่อตอนกลางวันน่ะ...”ผมกอดร่างสร้อยแน่น”สำหรับสร้อยพี่ไม่เคยอิ่มหรือหน่ายเลย”สร้อยทีแรกขัดขืนน้อยๆแต่พอฟังผมพูดก็หยุดดิ้นปล่อยผมกอดหอมตามอำเภอใจ”วันนี้ที่วัดมีงานฉลองผ้าป่าจากพระนคร สร้อยจะไปไหม”สร้อยพยักหน้า”งั้น2ทุ่มเจอกันน่ะ”สร้อยยิ้มแล้วก็พยักหน้าอีก”ปล่อยสร้อยได้แล้ว สร้อยจะกลับบ้านแล้ว ถ้าเย็นกว่านี้พ่อจะดุเอา”ผมยังกอดร่างสาวแน่นหอมไม่ยอมหยุด”ไม่อยากให้สร้อยจากไปเลย”สร้อยแกะมือผมออกแล้วหันมาพูดย้ำ”อยากได้สร้อยไว้กอดทั้งวันทั้งคืนก็ตั้งใจทำมาหากิน หาเงินไปขอสร้อยให้เร็วๆ จะได้มาอยู่ด้วยกันไวๆจำไว้”แล้วสร้อยก็เดินกลับบ้านไป ผมยืนมองจนลับตา อื่ม...อีกไม่นานหรอกสร้อย แต่เอ....แล้วเมื่อไหร่ล่ะ...
....ผมเดินกลับมาที่หน้าบ้าน พ่อกับแม่ยังคงนั่งคุยกันอยู่ ผมเดินเลี่ยงไปที่โอ่งแล้วตักน้ำมาล้างหน้า ก่อนจะเดินขึ้นเรือน “เดี๋ยว..มาคุยกัหน่อยสิ”พ่อเรียกผมเข้าไปนั่งคุยด้วย คงไม่พ้นเรื่องจะดุด่าผมที่ไม่คิดทำงานทำการอะไรอีกนั่นแหละ”ไปเอาเงินมาจากไหนตั้งเยอะ จี้ปล้นใครมารึเปล่า”แหมๆๆๆพ่อพูดไปเรื่อยหาคุกให้ลูกชายซะแล้ว ผมคิดในใจ”ฉันจะไปปล้นใครมาเล่าพ่อ เงินนี่ได้มาจากเล่น....เอ่อ...เอ่อ..เล่น....”ผมไม่กล้าตอบตรงๆกลัวพ่อดุเอา ถึงผมจะโตจนพ่อไม่กล้าตียามผมทำผิดมานานแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังเกรงๆพ่ออยู่เสมอ”เมื่อไหร่เอ็งจะทำงานทำการบ้างเป็นเรื่องเป็นราววะ...ปีหน้าก็จะ 20 แล้ว ส่วนสร้อยน่ะ เขาเป็นเด็กดีน่ะ ดีจนข้าเสียดายว่าเขาไม่น่ามาคบกับเอ็ง”อ้าวพ่อ ไม่ส่งสริมกันเลย กลับพูดลดความมั่นใจของผมเสียอีก “พ่อจะบ่นอะไรกับฉันหนักหนาเนี่ย เอางี้เดี๋ยวพรุ้งนี้ฉันจะไปที่ตลาดหาที่เช่า ตั้งแผงขายของก็ได้ พอใจไหม”พ่อถอนหายใจแล้วส่ายหัวอย่างระอาใจ”เอ็งจะขายอะไรอีกเล่า คราวก่อนล่องเรือไปจับปลาก็เหลวกันมาทีแล้ว”ผมลุกขึ้นตัดบทการสนทนาเพราะรำคาญที่ต้องมาตอบคำถามคาดคั่นและดูแครนของพ่อ อุตส่าห์หาเงินมาช่วยไม่ให้ถูกยึดที่ยังมานั่งบ่นนั่งว่าอยู่ได้”ฉันจะไปหาอะไรกินก่อนล่ะ เดี๋ยวจะนอนเอาแรงหน่อย คืนนี้จะไปเที่ยวงานวัด”แล้วผมก็เดินไปขึ้นเรือน พ่อส่ายหัวมองตามผมด้วยท่าทีหนักใจและผิดหวัง”ถ้ากูตายไปแล้วมึงจะได้รู้สึก”พ่อพูดจนผมต้องหันไปมองแบบงงๆ แต่ผมก็ไม่คิดอะไรเดินขึ้นเรือนไปที่บริเวณครัว หาข้าวกินแล้วไปหาที่นอน ครุ่นคิดว่าจะหาเงินที่ไหนว่าสร้อยไปเที่ยวงานวัดคืนนี้ อื่มมม....ยืมเจ้าคมก็ได้นี่ แล้วผมก็หลับไปอย่างง่ายดาย....
....ผมตื่นมาเกือบๆมืดแว่วเสียงเครื่องไฟมาจากวัด ผมผุดลุกอาบน้ำแต่งตัว พ่อมองผมอย่างปลงๆ ผมแต่งตัวเรียบร้อยก็จะลงจากเรือนเสียงพ่อทัก”เฮ้ย...ไม่กินข้าวก่อนเรอะ...แหกขี้ตามาได้ก็ออกเที่ยวเลย”ผมใส่รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สคู่เก่งอยู่ หันไปยิ้มให้พ่อ”ไม่อ่ะพ่อ เดี๋ยวไปหากินที่วัด งานอย่างนี้คงมีข้าวฟรีแจก ข้าไปล่ะแล้วผมก็ออกเดินจากเรือนตรงไปยังวัดประจำหมู่บ้าน คืนนี้คงได้สำราญสนุกสนานแน่ เพราะเห็นข่าวมาว่าจะมีวงดลตรีชื่อวงเวียนใหญ่มาด้วย ได้ข่าววงนี้กำลังจะเริ่มดังมีเทบวางขาย2-3ชุดแล้ว มีเพลงดังรูสึกจะชื่อเพลงขอทานสะพานลอยหรืออะไรนี่แหละ
....ผมเดินมาจนถึงหน้าวัดเจอเจ้าคมยืนเก้ๆกังๆอยู่ ผมเดินเข้าไปทักมัน”เฮ้ย...มึงมานานหรือยัง แล้วเจอสร้อยบ้างหรือป่าว...”เจ้าคมมองผมอย่างดีใจ มันรีบบอกผมทันที”เจอแล้วพี่ แต่ไอ้เม้งมันกำลังตามตื้ออยู่”ผมของขึ้นทันที”ไอ้เม้ง ไอ้วรนุชตาตี่ ไหนมันอยู่ไหนมึงพากูไปสิ เดี๋ยวกูจะกระทืบมันโชว์ในงาน”เจ้าคมรีบพาผมไปทันที แล้วก็ได้เห็นไอ้เม้งกำลังเดินพัวพันสร้อยอยู่มันมีลูกน้องเดินตาม 3 คน ผมเดินเข้าไปหาแล้วขวางมันไว้”ไอ้เม้ง โดนเมื่อกลางวันยังไม่เข็ดหรอมึง อยากโดนอีกหรอถึงมายุ่งกับสร้อยของกู”ไอ้เม้งมองผมด้วยตาตี่ๆของมัน”มึงเองหรอ ทำไม...มึงมีปัญหาอะไร ถ้ากูจะจีบสร้อย เมื่อกลางวันกูไปคนเดียวโว้ย ตอนนี้มึงดู”ผมหันไปมองลูกน้องตัวใหญ่ๆของมันที่ทำท่าฮึ่มฮัมอยู่ข้างหลัง”แหม...ไอ้เม้ง..มึงนี่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่สมัยเรียนจนป่านนี้มึงก็ยังชอบพาคนมารุมกู”ใช่...ไอ้เม้งนี่มันเรียนมารุ่นเดียวกับผม มีเรื่องชกต่อยกันมาตั้งแต่อนุบาล แต่มันสู้ผมไม่ได้เลยสักครั้งจนหลังๆมันเลี้ยงลูกน้องและพามารุมผมประจำจนถึงวันนี้
...”มึงอย่ามายุ่งกับสร้อยไม่งั้นโดนตีนกูแน่...”ผมบอกไอ้เม้ง แต่มันยิ้ม”โดนตีนมึง แต่ก่อนกูจะโดนน่ะ กูว่ามึงนับตีนลูกน้องของกูก่อนดีกว่า”ผมตั้งท่าจะเอาเรื่อง แต่สร้อยห้ามเอาไว้”อย่าพี่...อย่ามีเรื่องเลย เรามาเที่ยวกันหลบไปที่อื่นเหอะ”ผมสะบับมือจากสร้อย”ทำไมต้องหลบมันด้วย มันมีอะไรน่ากลัว”สร้อยทำเสียงดุๆ”เดี๋ยวนี้กล้าพูดกับสร้อยอย่างงี้แล้วหรอ”ผมจึงรู้สึกตัวแต่ไม่วายหันไปขู่มัน”กูเห็นแก่หน้าสร้อยน่ะเมิง...”ผมชี้หน้ามันแล้วพาสร้อยเดินหนีไป”แต่กูไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น เอาเลยพวกเรากระทืบแม่งเลย”ไอ้เม้งสั่งลูกน้องเข้ารุมผมทันที ผมไม่ทันตั้งตัวถูกรุมอัดข้างเดียว เสียงสร้อยร้องกรี๊ดพยายามเข้าห้ามแต่ถูกไอ้เม้งดึงหลบไปให้ดูผมถูกลูกน้องมันรุมอัด คนที่มาเที่ยวงานตกใจแตกตื่นและมีบางส่วนมามุงดูห่างๆ ไอ้เม้งหัวเราะชอบใจ สร้อยได้แต่ร้องให้คนช่วยผม แต่ให้ตายเหอะไม่มีใครช่วยผมเลย เพราะผมเป็นพระเอกประเภทใกล้เคียงของจริงไม่เก่งกาจขนาดสู้แบบ 1 ต่อ 10 ได้ ดังนั้นผมจึงถูกรุมอัดและหมดสภาพอย่างรวดเร็ว...
....ไอ้เม้งหัวเราะชอบใจเมื่อผมถูกพวกมันจับหิ้วปีกมายืนตรงหน้าของมัน”ไงมึง...เขาว่ามึงเก่งจังเลย แต่หมาเก่งแค่ไหนก็สู้หมาหมู่ไม่ได้หรอกโว้ย”แล้วไอ้เม้งก็เงื้อหมัดจะชกผม”เฮ้ยยย.....หยุด....พี่....ผมมาช่วยแล้วววว....”เสียงเจ้าคมตะโกนลั่นมันวิ่งมาพร้อมไม้หน้าสามแล้วหวดไปที่กบาลไอ้เม้งเต้มแรง ไอ้เม้งถลาไปนอนราวนกปีกหัก ไอ้สามคนปล่อยมือจากการจับกุมตัวผม แล้วรีบไปดูอาการไอ้เม้ง เลือดสดๆใหลออกมาไอ้เม้งตะโกนลั่นด้วยความโกทธ”ไป...พวกมึงไปกระทืบมันให้ตายคาตีนเลย...”ลูกน้องไอ้เม้งวิ่งตามเจ้าคมที่พอรู้ตัวก็วิ่งหนีสุดฝีตีน ไอ้เม้งกุมหัวแล้วเอามือมาดูเห็นเลือดตัวเองออกมากก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน”แม่งล่อหัวกูแตกเลยไอ้คม มึงนะถ้าจับมึงได้..กูเอามึงตายแน่”ไอ้เม้งบ่นพึมพำคนเดียว”แต่ก่อนมึงจะเอามันตายน่ะ กูว่ามึงเอาตัวให้รอดก่อนดีกว่า”ผมที่ตอนนี้ฟื้นตัวแล้ว เดินมายืนใกล้ๆกับมันบอกเตือน ไอ้เม้งสะดุ้งเพราะมันมัวแต่โมโหให้ลูกน้องไปไล่กระทืบเจ้าคมจนหมด มันจึงลืมคิดถึงผมไป มันหันมาหาผมแล้วยิ้มแหะๆ ผมก็ยิ้มเหี้ยมๆให้มัน พร้อมกับส่งกำปั้นลุ่นๆใส่หน้ามันจนหน้าหงาย ตัวต่อตัวน่ะ ไอ้เม้งมันสู้ผมไม่ได้อยู่แล้ว”สำหรับกูน่ะ เก่งไม่กลัว กูกลัวรุมว่ะ..”
....ที่หน้าโบสถ์สร้อยนั่งเอาผ้าเช็ดหน้าซับเลือดให้ผม และบ่นต่อว่าที่ผมไปมีเรื่องกับพวกไอ้เม้ง ผมได้ทีก็ออดอ้อนขอความเห็นใจจากสร้อย”แหม..ก็มันมาลวนลามสร้อยของพี่นี่ พี่ทนม่ายด้าย...”พูดไม่พูดเปล่าผมซุกหัวไปที่ตักของสร้อย”บ้า...พี่ทำอะไร นี่ในวัดในวาน่ะ อย่ามาทำทุเรศ”ผมลุกขึ้นเปลี่ยนมากอดเอวดึงรั้งร่างสาวมาแนบชิด”งั้นไปที่อื่นก็ได้ ท้ายนาตรงโน้นดีไหม”สร้อยหยิกผมอย่างแรงจนผมต้องปล่อยมือ”พี่นี่ เจอทีไรก็ชวนไปทำอุบาศว์ทุกที นี่มาเที่ยวงานวัดน่ะ ไปไห้วพระปิดทองทำบุญกันดีกว่า”แหมว่าผมชวนไปทำอุบาศว์ แต่ยอมให้พาไปทำทุกที”อยากไปไห้วพระหรอ..งั้นก็ไปกันสิ”ผมฉุดมือสาวคนรักและจูงจะไปทำบุญ เจ้าคมก็โผ่ลพรวดมาจนสร้อยตกใจร้องว้ายนึกว่าผี เพราะหน้าตาบวมปูด”โอ้ย...พี่ ทำไมไม่ตามไปช่วยผม เจอเสียเละเลย”ผมกัดฟันกรอด”ไอ้เม้งมึงทำกับไอ้คนขนาดนี้เลยรึ มึง...”สร้อยดึงมือของผมเอาไว้”พอแล้วพี่ อย่าจองเวณกันเลย ตะกี้พี่ก็อัดไอ้เม้งจนคลานสี่ขาไปแล้ว พอเหอะอย่ามีเรื่องอีกเลยไปทำบุญกันดีกว่า”ผมเห็นแก่สร้อยและปลอบเจ้าคม”ได้สร้อย พี่จะฟังเธอ ไอ้คมไว้คราวหน้ากูจะอัดมันคืนให้ วันนี้ไปเที่ยวงานวัดกันดีกว่า”แล้วผมก็กระซิบมัน”ขอกูยืมเงินสัก 200 ดิ กูไม่มีเงินพาสร้อยเที่ยวเลยว่ะ”เจ้าคมมองผมตาปริบๆแต่ก็ควักเงินส่งให้....
....ผมพาสร้อยเดินเที่ยวในงานเราเพลิดเพลินกับร้านค้าและเครื่องเล่นต่างๆ มันช่างมีความสุขและสนุกสนานตามประสาคนบ้านนาเสียจริง บริเวณวัดเต็มไปด้วยผู้คนเดินไปมา หนังกางแปลงเริ่มฉาย ลิเกเริ่มโหมโรง มวยเริ่มต่อย วงดลตรีเริ่มบรรเลงเพลง เสียงหัวเราะที่แสนรื่นเริงกับมหรสพดำเนินไปทั่วแม้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่คนบ้านนอกอย่างพวกเราจะมีสิ่งบันเทิงใดมากไปกว่านี้ สร้อยหยุดยืนดูเสื้อและกางเกงวัยรุ่นที่ร้านค้าร้านหนึ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้สายตาของเธอบ่งบอกว่าอยากได้ ผมเดินเข้าไปถามราคาเพื่อชื้อให้เอาใจเธอ แต่ต้องรีบออกมาและจูงมือเธอเดินหนี”เท่าไรหรอพี่...”สร้อยถามผมและหันกลับไปดูอย่างอาลัยอาวรณ์ ผมไม่กล้าบอกราคาเธอ 450บาทแพงบัลลัยย์ ผมพาเธอมาหยุดที่เวทีมวย สร้อยยังคงมองไปที่ร้านนั้น ท่าจะอยากได้จริงๆ ผมได้แต่ถอนหายใจปลอบเธอ”น่าสร้อย เอาไว้วันหลังพี่จะชื้อให้ แต่...วันนี้....”ผมต้องหยุดพูดเมื่อมองไปด้านเต๊นท์ของเวทีมวยกำลังมีการเปรียบมวยกันอยู่ บ้านนอกนี่สมัยนั้นเวลาชกมวยกันเขาหานักมวยกันข้างเวทีเลย ไม่เหมือนสมัยนี้ที่จัดไว้ล่วงหน้า ผมมองเห็นทางหาเงินได้แล้ว เมื่อได้ยินว่าคนชกชนะจะได้เงินรางวัล 500 แพ้ได้ 300 น่าจะพอชื้อเสื้อให้สร้อย”รอพี่เดี่ยวนะสร้อย..”ผมรีบวิ่งไปที่เต็นท์ แจ้งความจำนงส์จะขอขึ้นชก
...สร้อยเดินตามมาห้าม”ไม่เอานะพี่ จะมาเจ็บตัวเพราะสร้อยอย่างนี้ สร้อยไม่อยากได้แล้ว”ผมยิ้มหวานให้สาวคนรัก”ไม่เป็นไรน่า พี่ชนะอยู่แล้ว รอใส่เสื้อใหม่ได้เลย”ผมถูกเปรียบให้ชกกับนักมวยรูปร่างค่อนข้างเล็กกว่าผมนิดหน่อยและดูท่าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ เจ้าคมพาผมไปแต่งตัวและพาขึ้นชก ตอนเดินขึ้นเวทีระหว่างทางผมเห็นไอ้เม้งหน้าตาบวมปูดมันมองผมแล้วมันก็ยิ้มเยาะ ผมไม่สนใจ ขึ้นเวทีไปผมก็ไห้วครูไปตามเรื่อง แต่พอคู่ชกขึ้นเวทีมาผมต้องสะดุ้ง เพราะมันคนล่ะคนกับที่เปรียบไว้กับผม ร่างกายมันใหญ่โต หน้าตาดุดัน เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกร้าม แค่ใส่เขาให้บนหัวมันก็ดูเหมือนควายดีๆตัวหนึ่งนี่เอง”เฮ้ย...กรรมการตอนเปรียบกันมันไม่ใช่ไอ้คนนี้นี่หว่า มันยังไงกัน”ผมโวยวายกับกรรมการและคนจัดที่ทำหน้าบอกไม่ถูก ไอ้เม้งเดินมาข้างๆเวทีมันยิ้มยั่วด้วยหน้าตาที่บวมปูดตาปิด”มึงกลัวก็ลงมาดิ ไม่ต้องชก ไอ้ขี้แพ้ ถ้ากลัวลงมาเลยดิ”ไอ้เม้งพูดถากถางผม อ้อ..ท่าทางมันจะอยู่เบื้องหลังแน่...
...เจ้าคมที่เป็นพี่เลี้ยงจำเป็นก็ตกใจไม่น้อย”พี่..ผมว่าพี่เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันน่ะ ไอ้นั่นมันไม่น่าใช่คน ตัวขนาดนั้นมันควายชัดๆ”ผมมองสร้อยที่มีสีหน้ากังวล มองไอ้เม้งที่พูดฮาโห่ผมอยู่ข้างๆเวที และมองไปที่ร้านเสื้อ จึงตัดสินใจ เอาล่ะสร้อยพี่จะสู้เพื่อเธอ”กูไม่ยกเลิก กูจะต่อย ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ขวางทางรักของกูกับสร้อยได้หรอก”ผมหันไปพยักหน้าพร้อมจะต่อยกับคู่ต่อสู้รูปร่างขนาดควายเรียกพี่...
....ไอ้เม้งหัวเราะร่าเดินมายืนใก้ลๆสร้อยมันตะโกนบอกผมก่อนจะเริ่มชก”เฮ้ย...กูมีเดิมพันพิเศษมึงจะเอาไหม”ผมมองหน้ามันอย่างเกลียดชังในความเจ้าเล่ย์ของมัน”มีแผนวรนุชอะไรอีกล่ะมึง จะเดิมพันอะไรว่ามา”ไอ้เม้งหัวเราะกวนๆ”ถ้ามึงชนะกูจะแถมเงินให้มึง1000นึง แต่ถ้าแพ้คืนนี้กูจะพาสร้อยเดินเที่ยวงานโดยมึงห้ามมาขวางเอาไหม”สร้อยกระเถิบเดินหนี”บ้าเรอะ เดิมพันบ้าๆ ฉันไม่เอาด้วยหรอก”ผมมองสร้อยและคู่ชกสลับไอ้เม้ง และนึกถึงเงิน1000เอาว่ะผมตัดสินใจ”เออก็ได้”สร้อยทำหน้าตกใจอุทานว่าพี่....ผมสูดลมหายใจหันหน้ามาบนเวทีหลับตาตั้งสมาธิ พอกรรมการเรียกตัวไปกลางเวทีผมถึงได้รู้ว่า ไอ้ตุ้ยนุ้ยคู่ชกของผม มันสุงใหญ่ชนิดผมสูงไม่ถึงไห่ลของมัน แต่เพื่อสร้อยผมจะสู้ และแพ้ไม่ได้ด้วย
...เป็นไปตามคาดผมถูกไอ้ตุ้ยนุ้ยทั้งเตะทั้งต่อยราวกับเด็กถูกผู้ใหญ่รังแก ยกสามผ่านไปผมรู้สึกหน้าตามันหนาปากหนักๆ”พอเหอะพี่ คงไม่ไหวแล้วมั่งเนี่ยะ”เจ้าคมเอ่ยบอกผม สร้อยที่มายืนมองผมทำท่าจะร้องไห้”พี่พอเหอะ สร้อยไม่อยากได้แล้วเสื้อบ้าๆนั่นน่ะ”ไอ้เม้งเดินมาใก้ลๆ”ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ อ้อ...มึงจะหาเงินชื้อเสื้อให้สร้อยเองเรอะ เอาเลยยอมแพ้เลย เดี๋ยวกูจะพาสร้อยไปชื้อแบบเหมายกร้านให้เลย เอาเลยยอมเลย ไอ้ขี้แพ้”ผมกัดฟันกรอด กรรมการมาถามผมว่าชกไหวไหม ผมพยักหน้า”ผมว่าถ้ามีกระจกแล้วส่องหน้าให้พี่เห็นตอนนี้ ผมว่าพี่จะขอเลิกชกแน่ๆ”ผมไม่สนใจฟังลุกขึ้น เดินไปชกกันกลางเวที ระหังดังขึ้น ผมถูกชกหงายไปตรงด้านข้างเวที กรรมการปราดมานับ ผมสลัดหัวไล่ความมึนงง”ชกใช้หัวบ้าง เอาแต่ใช้แรงมึงจะไปชนะได้อย่างไง”เสียงสอนสั่งคุ้นๆดังใก้ลๆ ผมหันไปมองจึงอุทานว่า”พ่อ....”ใช่แล้วครับ พ่อผมก็มาดูด้วย...”ตัวมันใหญ่ เอ็งปะทะตรงๆไม่ได้หรอก ตัดขามันเลย”เสียงพ่อสอนผม
...ผมเด้งตัวขึ้นมาก่อนกรรมการนับสิบ กรรมการเช็คนวมผมแล้วถามว่าไหวไหม ผมพยักหน้า ก่อนนั้นผมต่อยแบบไม่มีสติ คราวนี้ผมมีสติแล้ว ผมเริ่มวิ่งวนไปรอบๆ ไอ้ตุ้ยนุ้ยเจอลีลาใหม่ผมถึงกับงง และถูกผมเตะเจาะยางหลายครั้ง(ภาษามวยคือเตะที่ช่วงขาจนเจ็บและคู่ต่อสู้จะยืนไม่ไหว)มันเริ่มมีอาการเจ็บ และหยุการเครื่อนไหว สุดท้ายก็ถูกผมเตะจนหงายท้องลุกไม่ขึ้น ต้องยอมแพ้ไป พ่อหัวเราะชอบใจก่อนพาแม่เดินไปเที่ยวในงาน บนเวทีผมรอกรรมการนับสิบและผสานสายตากับสร้อย ยิ้มให้อย่างสมหวัง สร้อยปาดน้ำตาและเป็นคนแรกที่ถลาเข้ามาหาผมหลังลงจากเวที
...”เดี๋ยว...จะรีบไปไหน ลืมอะไรหรือเปล่า”ไอ้เม้งทำท่าจะเดินหนีแต่เจ้าคมรีบไปขวางและเอ่ยทวงเดิมพัน ไอ้เม้งกัดฟันด้วยความแค้นมันล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมา แต่โยนลงบนพื้นให้ ผมผุดลุกตวาดมันดังลั่นด้วยความโมโหที่มันหยามกันเกินไป”เงินนั่นเป็นของกู กูได้มาอย่างถูกต้องขาวสะอาด ไม่ได้ขอทามมาจากมึงน่ะ ไอ้เม้ง หยิบส่งมาให้กูดีๆ”ไอ้เม้งหันมามองผม ทำหน้ากวนๆ”กูก็ให้แล้วดีๆ ถ้ามึงไม่เอากูก็ไม่ว่า ศักดิ์ศรีเยอะนักมึงอย่าเก็บน่ะ”แล้วมันก็เดินไปพร้อมสมุนของมัน เจ้าคมก้มเก็บเงินมาส่งให้ผม”เกิดเป็นคนเหมือนกัน อย่ามาดูถูกกันมากเกินไปไอ้เม้ง สักวันกูจะรวยให้มากกว่าพ่อมึงอีก กูจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงชาวบ้านนับถือให้มึงดู แล้วกูจะให้มึงมาก้มกราบขอโทษกูในเรื่องวันนี้”ผมด่าไล่หลังไอ้เม้งไป มันหันกลับมาหัวเราะเยาะ”แหมจะรวยจะมีชื่อเสียง ที่ทางของมึงจะถูกเตี่ยกูยึดวันไหนก็ไม่รู้ เสือกพูดมาได้ไม่อาย ทุเรศว่ะ...”ผมสุดจะทนวิ่งควงกำปั้นหมายจะไปชกมันอีกทีแต่ทว่ามีเสียงตะโกนห้าม”หยุดน่ะโว้ย...พวกมึงจะก่อเรื่องอะไรกันอีก...”ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียงห้าม ผู้ใหญ่สิงห์นั่นเอง....
...ผู้ใหญ่สิงห์เป็นผู้ใหญ่ของหมู่บ้านเราชื่อดุแต่ตัวจริงไม่ค่อยดุ ดีแต่วางอำนาจขู่คนที่กลัวและโกงกินสารพัด เป็นคู่หูกับแป๊ะฮง พ่อไอ้เม้งร่วมมือกันโกงชาวบ้านเป็นล่ำเป็นสัน”เฮ้ย....มีอะไรกัยว่ะ...”ไอ้เม้งรีบฟ้อง”ก็ไอ้นี่สิ มันหาเรื่องฉันก่อน มันบอกสักวันว่ามันจะเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเล่นงานฉันกับเตี๋ยจ๊ะ...”ผู้ใหญ่สิงห์มองหน้าผม”ไม่เหิมเกริมมากเกินไปหน่อยเรอะมึง...มึงนี่ฝันถึงขนาดจะเป็นผู้ใหญ่บ้านนางรองเชียวเรอะ....”ทุกคนในที่นั้นได้ยินก็หัวเราะเยาะผมกันใหญ่ โดยเฉพาะไอ้เม้งหัวเราะดังกว่าใครเพื่อน”ถ้ามึงได้เป็นผู้ใหญ่ สงสัยกูก็ได้เป็นกำนันล่ะว่ะ”ผู้ใหญ่สิงห์ยกมือห้ามทุกคนให้หยุดหัวเราะผม”แล้วมีเรื่องอะไรกันล่ะนี่ เมื่อหัวค่ำมึงก็ไล่ชกกันมาทีแล้วนี่ มึงจะก่อเรื่องกันอีกทำไม”ผมมองไอ้เม้งเคืองๆ”ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย ผู้ใหญ่สิงห์ แล้วที่หาเรื่องก่อนนะไอ้เม้งต่างหาก”เจ้าคมเดินมาช่วยพูดอีกแรง”ไอ้เม้งมันแพ้เดิมพันมวยพี่เขา แล้วทำโยนเงินให้แถมดูถูกพี่เขาอีก”สร้อยมาช่วยพูดอีกคน”ใช่...คนบางคน...แพ้แล้วยังจะไม่ยอมจ่ายแล้วหาเรื่องด้วย..”ผู้ใหญ่สิงห์เห็นหลายเสียงยืนยันและไอ้เม้งกับพวกทำอึกอักจึงชิงตัดบท”แหม..มึงชกชนะเรอะ กูยินดีด้วย แหมเสียดายกูมาดูไม่ทัน กูก็อยากเห็นฝีมือว่าที่ผู้ใหญ่คนใหม่ของบ้านนางรองเหมือนกัน”แล้วผู้ใหญ่สิงห์ก็หัวเราะลั่น”แต่ว่า...ผู้ใหญ่...”ไอ้เม้งทำท่าไม่ยอม ผู้ใหญ่สิงห์หันมาขยิบตาปรามไอ้เม้งจึงเงียบไป”อย่ามีอะไรขุ่นข้องหมองใจกันเลย เลิกแล้วต่อกันซะ เรามันคนบ้านเดียวกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป เอ้า..แยกย้ายไปหาความสนุกกันดีกว่า งานวัดกำลังสนุกกันเลย...ไปๆๆเลิกทะเลาะกันนะข้าขอร้อง”ผู้ใหญ่สิงห์ตัดบทไล่ทุกฝ่ายให้เลิกรากันไป...
...ผมกับพวกไอ้เม้งก็แยกย้ายกันไป ผมกับสร้อยเมื่ออกจากบริเวณเวทีมวยแล้วก็พากันไปที่เวทีลิเก ระหว่างนั่งดูลิเกไปสร้อยก็เอาผ้าเช็ดหน้าประคบรอยฟกช้ำที่หน้าให้ผม”ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าเนี๋ยพี่..ดูสิ ไม่น่าไปทำเลย..”ผมยิ้มให้สร้อยแต่ยังปวดถึงสะดุ้งร้องโอ้ย....”ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะสร้อย”สร้อยมองอย่างห่วงใย”วันนี้มันไม่เท่าไหร่หรอกเดี๋ยวคอยดูพรุ้งนี้”ผมชูถุงกระดาษข้างๆเขียนว่าโชคดี ภายในใส่เสื้อผ้าชุดที่สร้อยอยากได้”เป็นไง..เห็นไหมว่าพี่รักสร้อยแค่ไหน พี่เอามาให้สร้อยจนได้ “สร้อยยิ้มน้อยๆแต่ดูเศร้าๆ”ถ้าต้องแลกด้วยความเจ้บปวดของพี่ขนาดนี้ล่ะก้อ สร้อยไม่อยากได้หรอก”เจ้าคมที่นั่งข้างๆลุกขึ้น ผมมองตามมัน”จะไปไหนว่ะ ไอ้คม ไม่ดูลิเกหรอ”เจ้าคมส่ายหน้า”ไม่อยากอยู่แล้ว หวานกันซะผมเลี่ยนเลย จะไปดูดลตรีวงดังจากพระนครดีกว่า”เจ้าคมบอกแล้ว เดินหนีไปที่เวทีดลตรี พอดลตรีบรรเลงเพลงวงน้องใหม่ที่กำลังจะเริ่มมีชื่อเสียงอย่างวงเวียนใหญ่ก็เปิดตัวด้วยเพลงสามช่าชื่อวณิพก หนุ่มสาวๆออกไปดิ้นตามจังหวะสนุกสนานรวมทั้งผมและสร้อยด้วย...
....แต่ขณะเรากำลังสนุกสนานกับการเต้นกันอยู่ ไอ้เม้งกับพวกก็โผ่ลออกมาเต้นข้างๆและทำท่าต้อนสร้อยไปและลูกน้องมันกันผมออกมา ผมพยายามเบียดเข้าไปแต่พวกไอ้เม้งก็ช่วยกันกันผมออกมา จนผมโมโหเดินเข้าไปผลักอกไอ้เม้งจนมันเซถลา พวกลูกน้องมันกรูเข้ามาจะเอาเรื่อง หนุ่มสาวนักดิ้นแตกฮือ วงดลตรีหยุดเล่นนักร้องนำพูดออกไมค์ขอร้องว่าอย่ามีเรื่องกัน แต่เราก็ไม่ฟัง”ทำอย่างนี้มันหาเรื่องกันนี่หว่าไอ้เม้ง...”ไอ้เม้งทำไขสือ”ทำไม นี่มันฟอร์ลสาธารณะโว้ย ใครอยากดิ้นยังไงก็ได้ มึงดิ้นไม่ได้เองเนี๋ย กูไปหาเรื่องอะไรมึง..”ผมเดินเข้าไปจับคอเสื้อมัน”ฉีกหน้ากันอย่างงี้...ไม่หาเรื่องกูแล้วมึงเรียกว่าอะไร พวกมึงจงใจมาขโมยซีนของกูชัดๆ อย่ามาหยามกูให้มากนักน่ะไอ้เม้ง”ผมชี้หน้าด่ามัน ไอ้เม้งทำหน้าตากวนๆเหมือนไม่รู้เรื่อง”โธ่...ไอ้เวณ...ใครจะดิ้นท่าไหนก็ได้เขาไม่ได้ห้าม มึงดิ้นไม่เป็นไม่เท่ส์อย่างกูแล้วอิจฉามาหาเรื่องกูนี่นะ”ผมสุดทนผลักมันล้มกลิ้งไปอีกครั้ง ตามไปจะเตะซ้ำแต่สร้อยมาห้าม และลูกน้องของมันมาขวางไว้....
....”มึงนี่..ไอ้ระยำ มึงทำกูหลายครั้งแล้วน่ะ..”ไอ้เม้งโมโหสุดขีดชักปืนมายิงขึ้นฟ้าหลายนัด ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นวิ่งหนีกันชุลมุน ผมไม่ได้กลัวเพราะรู้นิสัยของมันดี”ไอ้เม้ง...มึง...ไอ้วรนุชใต้ถุนส้วม มึงเล่นปืนเรอะมึง...”ผมหันไปเจอไม้กวาดก็วิ่งไปคว้าและเอามาวิ่งไล่ตีมัน”เล่นปืนเรอะมึง...ไอ้ชาติวรนุช มึงเล่นปืนกับกูเลยเรอะ..”ไอ้เม้งตกใจที่ผมไม่กลัวปืนในมือมัน มันตกใจเลยวิ่งหนี”เฮ้ยๆๆๆๆกูมีปืนนะ ปืนจริงด้วย มึงกลัวกูบ้างสิ”จนพวกลูกน้องมันวิ่งเข้ามาสกัมผมนั่นแหละ มันจึงได้หยุดพักหายใจ”โห้ย...แม่งมันไม่กลัวปืนของกูเลยเนาะ กระทืบแม่งให้ตายเลย”ผมพยายามสู้กับพวกลูกน้องมันสุดฤทธ์ เจ้าคมพยายามมาช่วยแต่ก็ไม่ไหว ขณะที่พวกเราตะลุมบอลกันอยู่นั้น ผู้ใหญ่สิงห์ แป๊ะฮง หลวงพ่อและตำรวจก็เข้ามาห้าม”เฮ้ยๆๆๆๆหยุดๆๆๆไอ้พวกมารศาสนาพวกมึงกล้ามาต่อยตีกันในวัดเลยรึนี่”...
....แป๊ะฮงเห็นไอ้เม้งกำลังถูกผมถีบกลิ้งไปมาก็เข้ามาขวาง ด้วยกลัวว่าลูกชายตัวเองจะตาย”หยุดน่ะมึง มึงนึกว่ามึงแน่แค่ไหนว่ะ เอาเลยอาหมาต๋าจับพวกมันให้หมดเลย”แป๊ะฮงหันไปบอกตำรวจที่คอยมาคุมและระงับเหตุการณ์ในงาน”ครับไม่ต้องห่วงครับ ผมจับมันแน่อาแป๊ะ จับพวกก่อเรื่องนี่ไปโรงพักให้หมดเลยทุกคนเลย อย่าให้หลุดหนีไปได้สักคนเลยน่ะพวกเรา”แล้วผู้กองก็สั่งกลุ่มตำรวจทุกคน ให้ล้อมจับพวกไอ้เม้งและผมพาไปโรงพักจนหมดทั้งสองฝ่าย....
....ผมและพวกไอ้เม้งถูกพาตัวมาโรงพัก สร้อยตามมาช่วยเป็นพยานให้ผม สร้อยนั่งให้การกับตำรวจเข้าข้างผมเต้มที่”ผู้กองค่ะ...ฉันเป็นพยานได้ว่าพวกที่หาเรื่องชกต่อยและยิงปืนน่ะเป็นพวกเจ้าเม้งลูกแป๊ะฮง...”สร้อยบอกตำรวจไปตามความจริง ทำให้แป๊ะฮงไม่พอใจ”อ้าวไหงพูด ซี้ซั้วะต่างอย่างงั้นเล่าหนูสร้อย”สร้อยมองอย่างไม่สะทบสะท้าน”ก็สร้อยพูดตามความเป็นจริง ถ้าเรื่องนี้ต้องติดคุกติดตะรางละก้อ คนที่ผิดมากกว่าใครก็คงไอ้เม้งลูกอาแป๊ะนั่นแหละ ที่ทั้งข่มขู่และยิงปืนในวัดด้วย”สร้อยทำเสียงดุๆ แป๊ะฮงยังไม่ยอมแพ้”ก็ไอ้เม้งมันถูกหาเรื่องและไอ้นี่ก็มากวนประสาทไอ้เม้ง แกล้งไอ้เม้งให้เสียหน้า หยามเชิงกัน มันไม่อยากมีเรื่องเลยยิงปืนขู่ แต่ดันไม่กลัว ก็เลยต้องต่อยกันป้องกันตัวนี่” แป๊ะฮงแก้ตัวแทนลูกชาย...
....”แหม..ไม่จริงหรอกผู้กอง ชาวบ้านเป็นพยานได้ว่าใครถูกใครผิด”เจ้าคมรีบพูดแทรก”ใช่..คมพูดถูก พี่เขาไม่ได้มีนิสัยอันตพาลหรอก แต่ไอ้เม้งนั่นแหละนิสัยไม่ดี ตามระรานพี่เขาตลอดจนมีเรื่องนี่แหละ”ชาวบ้านที่ตามมาก็ช่วยกันยืนยัน”ใช่ๆๆๆๆ....พวกฉันก็ช่วยเป็นพยานได้...”ผู้กองนั่งฟังแล้วมองหน้าผม ไอ้เม้งและคนอื่นๆจนครบก่อนจะถอนหายใจ”ว่าไงอาแป๊ะจะเอาอย่างไง ถ้าจะให้ดำเนินคดีผมก็ต้องส่งฟ้องทั้งสองฝ่าย ในฐานะร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาท แต่ถ้าเลิกแล้วต่อกันไปผมก็จะปล่อยตัวทั้งสองฝ่าย ไม่ลงบันทึกประจำวันให้เสียประวัติ แต่ต้องไปจ่ายค่าเสียหายให้พวกพ่อค้าแม่ค้าก็พอ”ผู้กองสรุปให้ และทุกคนก็รับเสียงอ่อยๆ “ผู้กองว่าไงพวกเราก็ว่าตามแหละ” เพราะทุกฝ่ายต่างผิดกันถ้วนหน้า ....
....ผมและเจ้าคมถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมๆ กัน แต่เมื่อถึงหน้าโรงพัก ดูไอ้เม้งมันยังทำหน้าเจ็บใจผมไม่คราย มันมองผมแล้วบอกแป๊ะฮง พ่อของมัน”เตี๋ย...ลื้อจะยอมให้จบแค่นี้หรอ มันดูถูกเราทั้งสองคนมากเลยน่ะ..”ไอ้เม้งพยายามยุพ่อมันให้ร่วมราวีผมต่อ “เฮอะ...ลื้อนี่มันไม่อายเลยน่ะ ลูกน้องมีตั้งโขยงทำอะไรมันไม่ได้ไม่พอ ยังมาฟ้องอั๊วะเป็นเด็กๆให้ไปจัดการมัน ขายหน้าจริงๆ ดีน่ะอากิมลั้งอียังไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นอีเอาลื้อตายแน่”แป๊ะฮงบ่นไอ้เม้งแล้วเดินไปขึ้นรถ ฝ่ายไอ้เม้งมองผมตาขวางแล้วเดินไปขึ้นรถด้านคนนั่ง แล้วรถมันก็วิ่งออกไป”หมดเรื่องหมดราวเสียที”ผมบ่นแล้วหันไปกอดสร้อย”ไปเหอะ เราไปหาที่เงียบๆปลอบขวัญกันดีกว่า”ผมกระซิบบอกสาวคนรัก”ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น สร้อยมานี่...”เสียงนั้นตวาดทำให้เราต้องหันไปดูแล้วสร้อยก็อุทานว่า”พ่อ....มาได้ไง...”
....สร้อยทำท่าตกใจไม่น้อยที่เจอพ่อตัวเอง”มานี่เดี๋ยวนี้..นังสร้อยอีลูกไม่รักดี”พ่อของสร้อยตวาด สร้อยยังคงยืนลังเลจบพ่อของเธอเดินมาดึงมือลากตัวออกไปจากข้างๆผม สร้อยขัดขืนเล็กๆน้อยๆแต่พอเจอพ่อถลึงตาใส่ก็ยอมทำตาม”มันเรื่องอะไรถึงมาเกือกกลัวกับไอ้นี่อยู่ได้ คนดีๆทั้งหมู่บ้านไม่คบหา”สร้อยทำอึดฮัดกอดอกทำท่าไม่พอใจและไม่ตอบ พ่อของเธอจึงหันมาหาผม”มึงก็เหมือนกัน เมื่อไห่รจะเลิกยุ่งกับลูกกูสักที ปล่อยให้ลูกกูไปมีผัวดีๆเหอะ อย่ามาฉุดลูกกูไปลงนรกกับมึงเลย”แหมพูดอย่างนี้ถ้าไม่ใช่พ่อของสร้อยล่ะก็ผมเตะปากไปแล้ว ผมกัดฟันตอบแบบข่มอารมณ์”ทำไมล่ะอา...ผมจะรักกับสร้อยมันผิดตรงไหน อาถึงต้องกีดกั้นด้วย ทำเป็นละครน้ำเน่าไปได้”พ่อของสร้อยมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า”มึงยังต้องให้กูบรรยายอีกรึ ไว้วันหน้ามึงโตเป็นพ่อคนแล้วมึงจะรู้ว่าทำไมกูถึงต้องกีดกั้นมึง กูมีลูกสาวคนเดียว กูก็อยากให้มันได้ผัวดีๆ มีอนาคต เลี้ยงลูกกูได้ไม่อดอยาก แล้วดูตัวมึงสิ มีอะไรที่จะเลี้ยงลูกกูได้ อนาคตของมึงอยู่ตรงไหนมึงเองยังไม่รู้เลย”พ่อของสร้อยพูดแล้วถอนหายใจ สร้อยมองพ่อเธอทีแล้วมองผมที”แต่..พ่อ...พี่เขากำลั.ง....”พ่อของสร้อยหันมาตวาด”เงียบไปเลย..กำลังอะไร ไม่ใช่พ่อไม่ให้โอกาศมัน กี่ปีแล้วเนี๋ยที่มันบอกจะมาขอ นี่พ่อกำลังจะเอาเอ็งใส่ตะกล้าล้างน้ำแล้ว ที่ผ่านมาช่างมันเถอะ ไปกลับบ้าน”พ่อของสร้อยฉุดแขนสร้อยให้เดินตามไป”พ่อเสียใจจริงๆที่เอ็งทำตัวเหลวใหลมาคบกับไอ้นี่ สร้อยเอ็งรู้ไหมว่ากำลังทำให้พ่ออายุสั้น”พ่อของสร้อยถอนหายใจแล้วพูดเสียงกร้าว”ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามเอ็งออกจากบ้านเด็ดขาด ไม่งั้นจะหาว่าพ่อใจร้ายไม่ได้”พ่อของสร้อยกำชับเสียงดุ ผมมองตามสร้อยที่ถูกลากเดินจากไปด้วยความรู้สึกไม่ดีเลย...
...ระหว่างเดินกลับบ้าน เจ้าคมก็เตือนผมด้วยความเป็นห่วงทีผมไปมีเรื่องกับไอ้เม้ง”ต่อไปผมว่าพี่ต้องระวังตัวให้มากๆ เพราะคืนนี้พี่กับมันมีเรื่องกันตลอด แสดงว่ามันจ้องราวีพี่ไม่เลิกแน่”ผมขำในคำเตือนของมัน”โอ้ย...ไอ้เม้งนะหรอกูไม่กลัวมันหรอก หรือว่ามึงกลัว”ผมถามมันกลับไป”กลัวสิพี่...เอ้ย..ไม่กลัวหรอก แตว่าไอ้สองคนพ่อลูกนี่พี่ก็รู้ว่ามันขี้โกง แล้วตระกูลของมันก็ขี้โกงทั้งบ้านเลย”เจ้าคมทำท่ากลบเกื่อนทั้งที่ท่าทางมันจะกลัวสองพ่อลูกไม่น้อย”เฮ้อ....กูรู้สึกสังหรณ์ใจว่ะไอ้คม”เจ้าคมมองผมอย่างแปลกใจ”สังหรณ์อะไรเล่าพี่”ผมมองไปในความมืดเบื้องหน้า”สังหรณ์ว่า กูอาจจะต้องเจอความสูญเสียที่จะเปลี่ยนชีวิตของกูไปทั้งชีวิตเลยก็ได้”เจ้าคมมองผมอย่างแปลกใจ”แล้วมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีไหมพี่..”ผมถอนหายใจ”กูก็ไม่รู้ว่ะ เขาว่าโลกนี้ไม่เคยมีใครได้อะไรมาฟรีๆ ในเรื่องดีเรามักเจอเรื่องร้ายแฝงมา และในเรื่องร้ายอาจพาเราไปพบเรื่องดีๆก็ได้”เจ้าคมทำหน้างงๆ”ผมไม่เข้าใจที่พี่พูดเลย ฟังแล้วมึนๆหัวยังไงไม่รู้”ผมหัวเราะและตบบ่าเจ้าคม”อย่าคิดมากว่ะ ชีวิตของคนอะไรที่ผ่านมาแล้วมันก็จะผ่านไป ไม่ว่าเรื่องดีเรื่องร้าย”เจ้าคมส่ายหัวใหญ่”ยิ่งพูดยิ่งงพี่...หยุดพูดเหอะ...”
....เรื่องร้ายๆมันก็เริ่มเข้ามาหาผมแล้ว เช้าวันต่อมาไอ้เม้งและลูกน้องก็ยกโขยงมาที่บ้านของผม พ่อไม่สบายหนักแต่เช้า ผมว่าค่อยยังชั่วจะพาไปหาหมอ แต่เจ้าเม้งแสดงเจตจำนงค์จะมาทวงเงินที่ติดค้างอยู่”ตอนนี้พ่อให้ฉันรับหน้าที่เก็บเงินแทน นี่เพิ่งตื่นมารึ สันหลังยาวอย่างนี้น่ะสิถึงได้จนได้ติดหนี้อยู่อย่างนี้”ผมประคองพ่อมานั่งที่แคร่พอได้ยินมันพูดถึงฟิวส์ขาดกำหมัดจะชกมัน พ่อร้องห้ามไว้”ข้าไม่ค่อยสบายว่ะ”ไอ้เม้งหัวเราะแล้วหันไปถามลูกน้องมัน”เฮ้ย..วันนี้เป็นวันอะไรว่ะ ไปเก็บเงินใครถึงเจอแต่คนป่วย รายที่เท่าไหร่แล้วว่ะ”ลูกน้องสอพลอของมันตอบว่า”คนที่แปดแล้วพี่..”พ่อถอนใจแล้วถามกลับ”มาเก็บอะไรอีกล่ะ เมื่อวานก็เพิ่งเก็บไปแล้วนี่...”ไอ้เม้งยิ้มหยันๆ”ก็มันไม่พอนี่ ค่าดอกล่าช้าอีกล่ะ”ผมถึงกับงง”หมายความว่ายังไงว่ะ” ไอ้เม้งไม่ตอบแต่เดินดูรอบๆบ้าน และมองไปทั่วๆที่ดินของบ้านผม”จ่ายเงินดอกล่าช้า ดอกมันก็ทบดอกสิว่ะ มึงไม่รู้หรอกรึ”มันบอกผมแล้วทำหน้าเจ้าเล่ย์”จ่ายค่าดอกเบี้ยทบค่าดอกเบี้ยมา”ผมมองหน้ามัน”กูไม่จ่าย มึงจะมีปัญหาไหม”ไอ้เม้งหัวเราะ”กูคิดไว้แล้วยึดที่มันไล่มันออกไปเลย”พ่อลุกขึ้นห้ามและไอโขรกๆ”ใจเย็นอย่ามีเรื่องกัน..เอ้านี่พอไหม”พ่อควักเงินออกมาให้ไอ้เม้ง มันเป็นเงินที่ได้จากการชกมวยของผมเมื่อคืนที่ผมให้พ่อเก็บไว้ และเป็นส่วนที่เหลือจากชื้อของให้สร้อยเมื่อคืนและผมตั้งใจให้พ่อใช้เอาไปหาหมอในวันนี้ ไอ้เม้งรับเงินมานับแล้วยิ้มอย่างพอใจ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าขึ้นดอกเป็นร้อยล่ะยี่สิบ มึงมันเก่งไม่ใช่หรอหามาจ่ายให้ได้น่ะ”ไอ้เม้งมองมาทางผม” ต่อไปนี้จ่ายช้าแค่นาทีเดียวกูยึดที่ของมึงทันที”มันกำชับผมด้วยมาดและน้ำเสียงสุดกวน ก่อนจะหัวเราะและพาพวกเดินจากไป ผมมองตามด้วยความคับแค้นใจ
....พ่อของผมอาการไม่ดีขึ้น ผมกลุ้มใจที่หาเงินพาพ่อไปหาหมอไม่ได้ ผมเลยมาที่ตลาดของหมู่บ้าน เจอเจ้าคมนั่งกินกาแฟอยู่”อ้าวกลุ้มใจอะไรล่ะพี่”เจ้าคมถามเมื่อเห็นหน้าของผมอมทุกข์”พ่อกูไม่สบายว่ะ...”เจ้าคมทำหน้างงๆ”ไม่สบายก็ไปหาหมอสิพี่”ผมยกกาแฟขึ้นมาดื่มแล้วถอนหายใจ”กูไม่มีเงินว่ะ...”เจ้าคมทำหน้าแปลกใจ”เมื่อคืนชกมวยได้เงินตั้งเยอะ ไปไหนหมดล่ะ”ผมถอนหายใจ”ไอ้เม้งเอาไปหมดแล้ว มันว่าเป็นค่าอดกทบดอก ไอ้วรนุชเม้งนี่มันท่าจะเล่นกับกูไม่เลิกแน่”เจ้าคมยกกาแฟขึ้นซดทีเดียวหมด”พี่เพิ่งรู้เรอะ แล้วพี่จะทำไงต่อไปล่ะนี่”ผมถอนหายใจ”กูอยากเจอสร้อยว่ะ...”เจ้าคมส่ายหน้า”พ่อไม่สบายแทนจะหาเงินพาไปหาหมอดันอยากเจอแฟน ผมไม่เข้าใจพี่เลย”ผมถอนหายใจตอนนี้ผมมีหลายเรื่องเหลือเกินให้คิดให้ทำ”ไอ้คมกูวานมึงหน่อย เอาจดหมายนี่ไปให้สร้อยที ห้ามเปิดอ่านก่อนน่ะ “ผมบอกมัน เจ้าคมรับไปแล้วยิ้ม”นี่ให้ผมไปฝ่าด่านดงตีนอีกแล้วหรือพี่”ผมมองหน้ามันแบบจริงจัง”จ๊ะๆๆๆพี่เดี่ยวคมจะดำเนินงานให้ แม้นจะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแค่ไหน คมพร้อมตายในหน้าที่ตามคำสั่งของพี่”
....ผมไม่รู้จะไปไหนหลังจากแยกกับเจ้าคมแล้วผมก็เดินเรื่อยๆไปจนถึงวัดประจำหมู่บ้านและแวะเข้าไปไห้วพระประธารในโบสถ์”เป็นอะไรล่ะ ร้อยวันพันปีข้าไม่เคยเห็นเอ็งมาวัดหรือกราบพระเลย”หลวงพ่อเดินผ่านมาและแวะทักผม”ก็มีปัญหาที่หาทางออกไม่เจอน่ะครับหลวงพ่อ”แล้วผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อฟังจบก็ยิ้มอย่างเมตรตา”เอ็งทำถูกแล้วล่ะ หน้าที่สำคัญที่สุดของลูกคือต้องกตัญญู คนไม่รู้จักกตัญญูมันก็ไม่ต่างจากสัตว์เดียรัจฉาน เอ็งอย่ากลุ้มใจไปเลย เอ็งคิดดีทำดีเอ็งก้ต้องได้รับ ผลตอบแทนที่ดี”หลวงพ่อพูดให้กำลังใจผม”ผมกลุ้มเพราะไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมารักษาพ่อน่ะครับ ลำพังตอนนี้หนี้สินก็ท่วมหัว แค่หาดอกเบี้ยมาจ่ายให้เขายังไม่พอเลย”หลวงพ่อมองผมแล้วก็ถอนหายใจ”เอางี้ข้ามีเงินส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ใช้ส่วนตัว เป็นเงินจากผ้าป่ากฐินน่ะ เอ็งเอาไปใช้ก่อน”ผมตกใจเมื่อหลวงพ่อออกปากให้ความช่วยเหลือและยื่นเงินก้อนหนึ่งจากย่ามมาให้”ไม่ได้หรอกครับหลวงพ่อ ผมไม่กล้าหรอกครับ เอาเงินพระเงินเจ้าตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่"”ลวงพ่อหัวเราะ"เอ็งแค่ยืมมีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน ไม่ได้ขโมยสักหน่อย”ผมส่ายหัวไม่เอาลูกเดียว”ไม่เอาหรอกผมกลัว ยังไงผมก็ไม่เอา...”หลวงพ่อถอนหายใจ”นรกเขามีไว้สำหรับคนชั่ว เหตุผลของเอ็งนรกเขาคงยกเว้นให้”ผมกราบลงขอบพระคุณหลวงพ่อ”แต่ผมต้องหาทางออกอย่างอื่นที่ดีกว่านั้น”แล้วผมก็ลาหลวงพ่อกลับ พ่อผมสอนมาแต่น้อยว่าข้าวของวัดและของพระนั้น ห้ามแตะต้องไม่ว่าจะกรณีใดๆไม่งั้นได้ตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ ผมเดินกลับมาบ้านด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย....
....ผมกลับมาบ้านอย่างเศร้าหมองพ่อยังนอนนิ่งอยู่บนบ้านด้วยพิษไข้ ส่วนแม่ได้แว่วเสียงว่าไปเก็บผัก ตรงคลองหลังบ้าน ผมเลยเดินตามไปดูก็เจอแม่นั่งเป็นลมอยู่ ผมจึงวิ่งเข้าไปประคองและบีบนวดจนฟื้น”เป็นลมอีกแล้วรึแม่”ผมถามอาการของแม่”ฉันบอกแม่แล้วว่าอย่าทำงานหนัก ถ้าทำอะไรไม่ไหวก็บอกฉันมาจะทำแทนให้”ผมตัดพ้อแม่ด้วยความห่วงใย แม่ถอนใจแล้วหันมาคุยกับผม”เมื่อวันวานแป๊ะฮงมันมาทวงเงินที่เราติดหนี้มัน แม่ใจคอไม่ดีเลย สิ้นหน้าฝนนี้เราไม่มีเงินใช้หนี้คงแย่ไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่”แม่บอกผมเสียงเหมือนจะร้องไห้”แม่สบายใจเถอะถ้าฉันยังอยู่จะไม่มีใครมายึดที่ของปู่ของย่าผืนนี้ไปได้แน่”ผมปลอบแม่ให้มีความหวัง”เฮ้อ..ทำไมชีวิตมันถึงเป็นแบบนี้ จนเหลือเกิน จนเสียจนไม่น่าจะเป็นผู้เป็นคนเลย พ่อของเอ็งก็มาป่วยเสียอีก”ผมจับมือของแม่”ฉันสัญญาแม่ ฉันจะไม่ให้ต้องลำบากอีกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะรับผิดชอบเรื่องต่างๆของครอบครัวของเราเอง”ผมยิ้มให้แม่ แม่มองแล้วถอนหายใจเฮ้อพึมพำ....มันจะไปไวกว่าเก่านะสิ “นี่...แม่อยากจะเตือนเอ็งเสียหน่อย”ผมหันไปฟังแม่อย่างตั้งใจ”คนเราน่ะลืมอะไรก็ลืมได้ แต่ขออย่างเดียวอย่าลืมตัว...คนเราลองได้ลืมว่าตัวเป็นใครก็เหมือนหนีความเป็นจริง สร้อยเขาน่ะ เป็นเด็กดีมีอนาคต แม่ว่าเอ็งคิดดีๆนะ รักเขาจริงเอ็งต้องทำตัวให้ดีกว่านี้ อย่าหลงตัวเองว่าเขารักแล้วจะทำอย่างไงก็ได้น่ะ ไม่งั้นจะมาเสียใจว่า เวลามีรักอยู่ไม่ดูแลให้ดี จะมาเสียดายตอนที่จะเสียไปนะ”ผมนั่งฟังแม่พูดแล้วยังงงๆ แม่อยากบอกอะไรผมเนี่ย...
...ผมนั่งมองควายสองตัวของพ่อที่ถูกผูกเชือกไว้ตรงโคนต้นไม้ข้างบ้าน ควายสองตัวนี้พ่อเอาไว้ทำนา และอยู่กับครอบครัวของเรามานานตั้งแต่ผมยังเล็กๆ ผมนั่งมองควายสองตัวครอเคีรยกันแล้วให้คิดอิจฉา อิจฉาที่มันไม่มีสมองเลยไม่ต้องมีปัญหาเหมือนคน ขณะผมนั่งเพลินๆก็เห็นรถกะบะของแป๊ะฮงวิ่งตรงมาทางเรือนของผม แล้วรถกะบะของแป๊ะฮงก็วิ่งมาจอดที่หน้าเรือนของผม เมื่อรถจอดสนิท แป๊ะฮงและไอ้เม้งพร้อมสมุนก็เดินเข้ามา ผมมองมันด้วยหางตาแล้วทำเฉยเหมือนพวกมันไม่มีตัวตน”ได้ข่าวว่าพ่อลื้อป่วยหนักเลยเรอะ พ่อลื้อนี่มันก็อึดน่ะ เห็นป่วยกระเสาะกระแสะมาตั้งนาน คราวนี้ท่าทางจะได้สบายหายสนิทแน่สักที”แป๊ะฮงพูดเหน็บแหนมแกมเยาะเย้ย”พ่อข้ายังอยู่อีกนาน แป๊ะฮงอย่ามาแช่งเลย เอาเวลาที่มาแช่งคนอื่นไปทำบุญต่ออายุตัวเองดีกว่า เผื่อบาปที่ทำๆมามันจะได้ลดน้อยลงแล้วเป็นกุศลให้มีอายุยืนยาวบ้าง”ผมย้อนกลับไปทำให้สมุนของมันมีอาการทำท่าฮึดฮัด แป๊ะฮงโบกมือห้ามพวกไว้”เฮ้ย..อย่า..ตอนนีมันมีปัญญาแค่พูดเท่านั้นแหละ”แป๊ะฮงเดินเข้ามาใก้ลๆผม”พ่อลื้อกำลังแย่ อั๊วะมันคนมีเมตรตา ตอนนี้อั๊วะก็รู้มาว่าลื้อกับครอบครัวกำลังกรอบ เอางี้อั๊วะจะให้เงินลื้อยืมเพิ่ม หรือจะขายที่ตรงนี้ให้อั๊วะขาดไปเลย จะได้มีเงินไปใช้สักก้อน เอาไหม”แป๊ะฮงมองผมด้วยตาหยีๆที่แฝงความเจ้าเล่ย์แสนโกง”แป๊ะฮงกลับไปเหอะ ข้ารู้ทันแป๊ะฮงทุกอย่าง กลับไปหลอกคนโง่ๆที่มันหิวเงินเหอะ แต่ไม่ใช่ข้า” แป๊ะฮงไม่ยอมแพ้”คิดดูให้ดีๆ ที่ดินนี่แลกกับชีวิตพ่อของลื้อ น่ะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ความอวดดีน่ะมันจะพาชีวิตบัลลัยก์น่ะ...”แป๊ะฮงหัวเราะอย่างสะใจ พอดีหันไปเห็นควายของพ่อสองตัวจึงหันไปถามไอ้เม้ง”เฮ้ย..อาเม้งลื้ออยากกินเนื้อควายไหมว่ะวันนี้”ไอ้เม้งหัวเราะและหันมามองผม”อยากกินจังเตี๋ย ทำไมวันนี้เตี๋ยจะมีเมนูเนื้อควายกินเรอะ”แป๊ะฮงยิ้มเดินเข้ามาหาผมอย่างมีแผนการบางอย่างในใจ...
....ลื้อไม่อยากกู้เพิ่มก็ไม่เป็นไร แต่ว่าอั๊วะอยากจะช่วยลื้อจริงๆ พ่อลื้ออั๊วะก็เห็นมานาน อั๊วะอยากช่วยลื้อกับพ่อของลื้อจริงๆ ไม่อยากให้พ่อลื้อไปเฝ้าเง็กเซียนก่อนเวลา เอางี้เอ็งขายควายสองตัวนี่ให้อั๊วะ เห็นแล้วอยากกินเนื้อควายจังหวะ เนื้อตัวของมันอวบอ้วนดี เห็นแล้วอั๊วะน้ำลายใหล ตกลงไหม”ผมมองมันอย่างเคืองแค้น”ไม่เอา..ไม่ขายพวกแกกลับไปเหอะ”แป๊ฮงยิ้มยั่ว”อั๊วะให้ลื้อหมื่นนึงเอาไหม ขายควายช่วยพ่อฮะ ฮะ ฮะ”ผมอยากจะกระโดดถีบหน้าของมันเหลือเกิน”ไม่ตกลงอะไรทั้งนั้นกลับไป”ผมไล่อย่างไม่เกรงใจ”ถ้าหมื่นห้าล่ะ..ลื้อจะเอาไหม”แป๊ะฮงยังยั่วผมไม่เลิก”กูไม่เอา พวกมึงไปพ้นๆหน้ากูไป”ผมไล่อย่างไม่เกรงใจ”ตามใจแต่ถ้าลื้อเปลี่ยนใจคราวหน้าไปหาอั๊วะราคานี้ไม่ได้แล้วน่ะ” แป๊ะฮงบอกผมก่อนเดินหัวเราะอย่างสะใจกลับไปขึ้นรถพร้อมสมุนและขับออกไป ผมแช่งตามขอให้รถมันคว่ำตายทั้งคันเลย...
....ผมมานั่งนิ่งเงียบที่คลองหลังบ้านเหม่อมองไปเรื่อเปลื่อยคิออะไรไม่ออก สักพักก็มีมือเล็กมาปิดตาผมจากด้านหลัง”ใครเอ่ยทายถูกโดนตบ ทายผิดให้หอมแก้ม”ผมยิ้มแล้วทายว่า”จินตหรา สุขพัฒน์..มาให้จูบเสียดีๆ”ผมจับมือคู่งามไว้แล้วหันไปดึงร่างนั้นมากอดหอมอย่างมันเขี้ยว”เบาๆสิ ช้ำไปหมดแล้ว”ผมกอดร่างสาวคนรักแน่นขณะเธอก็แค่ดิ้นไปตามจริต”แหมพี่คิดถึงจัง ไม่เจอตั้งนาน”สร้อยสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดผมจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่”บ้าจัง รุนแรงจังสร้อยคนน่ะไม่ใช่ตุ๊กตา แค่คืนเดียวไม่ได้เจอยังทำถึงขนาดนี้ ถ้าไม่เจอสักปีไม่จับฉีกกินเลยรึ”ผมหัวเราะแหะๆ”ก็ใจมันรักนี่ ใจจริงของพี่อยากจะกลืนกินสร้อยเข้าไปเลยน่ะ จะได้ไม่หลงไปให้ใครเห็น บอกตรงๆพี่กลัวคนมาแย่งสร้อยไปจากพี่เหลือเกิน”สร้อยทำตีไหล่ผมแก้เขิน”บ้า....คิดบ้าๆ แล้วให้เจ้าคมส่งจดหมายไปเรียกสร้อยมาทำไม”แล้วผมก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหมองจนสร้อยสงสัย”เป็นอะไรไปน่ะพี่ สร้อยไม่เคยเห็นพี่นั่งซึมหรือหงอยๆอย่างนี้มาก่อนเลยไม่สบายหรือเปล่า”สร้อยเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของผม ผมถอนหายใจหนักๆแล้วเอนกายเอามือประสานที่ท้ายทอยนอนลงข้างๆสร้อย”ก็พ่อของพี่ป่วยนะสิ ส่วนเงินไอ้เม้งก็มาเก็บไปหมด ไม่เหลือให้พาพ่อไปหาหมอเลย”สร้อยเอื้อมมาจับมือของผมสองข้าง”พี่อย่าท้อสิ พี่ที่สร้อยรู้จักน่ะ ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆน่ะ พี่ดูโน่นสิ”สร้อยชี้มือให้ผมดูในหนองน้ำ”พี่จำได้ไหมตอนเรียนน่ะ เราท่องอะไรกัน อันเมืองไทยใหญ่อุดม ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ดูในหนองน้ำสิ ปลาช่องตัวขนาดเขื่องๆเต็มหมด จับไปขายคงจะได้เงินหลายอยู่ คงพอให้พี่จ่ายเป็นค่าหมอของพี่ได้”ผมผุดลุกมานั่งดูเห็นปลาช่อนและปลาต่างๆดำผุดดำว่ายอยู่ในหนองน้ำ ผมยิ้มออกมา”อย่างนี้ค่อยมีหวังหน่อย...”ผมหันไปกอดสร้อยแล้วหอมไม่ยั้ง”ขอบใจมากสร้อยที่ชี้ทางสว่างให้พี่”สาวคนรักผมถูกหอมแบบหนักหน่วงจนแก้มนวลๆช้ำแดงน้อยๆแต่ก็ไม่ว่าอะไร”รีบไปจับแล้วเอาไปขายเถอะพี่ เย็นนี้จะได้มีเงินพาพ่อพี่ไปหาหมอ” ผมผละจากร่างสร้อยอย่างเสียดาย”ขอบใจสร้อย..เดี๋ยวพี่ไปตามเจ้าคมแล้วไปเอาแหมา แล้วจะเอาไปขายที่ตลาด”ผมออกวิ่งดิ่งตรงไปบ้านอย่างลิงโลด และได้เจอเจ้าคมที่กำลังมาหาผมพอดี ผมจึงชวนมันไปจับปลาในหนองด้วยกัน....
....หนองน้ำแห่งนี้กว้าง-ยาวประมาณ 10 คูณ 20 เมตร น้ำไม่เคยแห้ง มันอยู่ในที่ของพ่อผมเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของครอบครัวผม แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่ามีปลานานานพันธ์อาศัยอยู่มากมาย ผมกับเจ้าคมเหวี่ยงแหทอดหาปลาได้มากมายจนล้นข้อง(ภาชนะใส่ปลาสานด้วยไม้ไผ่)ต้องไปเอาถุงทะเลมาใส่(ถุงปุ๋ยนั่นแหละ สมัยนั้นเรียกกันอย่างนี้)จนเกือบๆบ่าย 3 เราก็ได้ปลาเกินกว่า 20 กิโล ผมเอามือปาดคราบน้ำจากใบหน้า”เอาละ ไอ้คมกูว่าน่าจะพอแล้วน่ะ ขนาดนี้ถ้าเอาไปขายคงได้เกือบๆพันแน่...”เจ้าคมที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในหนอง ก็ตอบว่า”แหมหนองน้ำบ้านพี่นี่ปลาชุมจริงๆ วันหลังผมจะมาจับบ้าง”ผมลากถุงใส่ปลาและข้องมาวางในร่ม สร้อยนั่งรออยู่ ยกขันใส่น้ำยื่นให้ผม”เดี๋ยวไปขายที่ตลาดเลยพี่ ขายให้ถูกๆหน่อย ชาวบ้านที่นี่เขาไม่ค่อยมีเงินกัน”ผมดื่มน้ำจากขันดับกระหายแล้วยิ้มให้สาวคนรักผู้แสนดี”จ้า..พี่จะทำตามบัญชา”ผมหันไปเรียกเจ้าคมขึ้นมาจากน้ำและช่วยกันแบกข้องและถุงใส่ปลาไปที่เรือน
....แม่ของผมยิ้มรับแก้มแทบปริที่เห็นผมรู้จักคิดรู้จักทำงามบ้าง”ไงได้ปลามากันเยอะเลยน่ะ...”ผมยิ้มชูถุงและข้องใส่ปลาให้แม่ดู”เดี๋ยวฉันจะเอาไปขายที่ตลาดแล้วเย็นๆเราคงมีเงินพาพ่อไปหาหมอ”พ่อที่นอนซมป่วยยู่บนเรือนผงกหัวมามองผมแล้วยิ้มอย่างภูมิใจ”แหมสร้อย...มาช่วยด้วยหรอ”แม่ของผมทักว่าที่ลูกสะใภ้”ไม่น่าลำบากมาเลย ถ้าพ่อของหนูมาเห็นว่ามาขลุกอยู่ที่นี่จะดุเอาน่ะ”สร้อยยิ้มน่ารักๆ แล้วส่ายหน้า”ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พ่อสร้อยเขารักสร้อยจะตาย ไม่กล้าดุหรอก”ผมนั่งพักเหนื่อยกับเจ้าคมสักครู่และกำลังเตรียมตัวจะเอาปลาไปขายที่ตลาด ก็มีรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าเรือนของผม เมื่อรถจอดสนิท พ่อของสร้อยก็เปิดประตูด้านคนก้าวลงนั่งออกมาสีหน้าท่าทางไม่พอใจ และด้านคนขับนั้นก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวเรียบร้อยเปิดประตูก้าวตามลงมาด้วย สร้อยหน้าเสียอุทานออกมาว่า”พ่อ...ครูสมบูรณ์...มาได้ยังไง...”
....พ่อของสร้อยเดินดิ่งเข้ามาโดยมีชายหนุ่มเดินตามมาติดๆ”ไหนเอ็งบอกว่าเอ็งขอไปตลาดไง ไหงถึงมาเกือกกลั้วอยู่กับไอ้นี่ได้ ทำไมมีลูกสาวอยู่คนเดียวแล้วมันไม่ได้ดั่งใจเลย”พ่อของสร้อยเปิดฉากดุด่าลูกสาวทันที”มานี่เดี๋ยวนี้ แล้วไม่ต้องพูดอะไร กลับบ้านพร้อมพ่อเดี๋ยวนี้ ...”พ่อของสร้อยเดินเข้ามาฉุดมือลูกสาวโดยไม่สนใจว่า ผมและคนอื่นๆจะรู้สึกอย่างไง สร้อยสะบับมือและบอกว่า”ไม่หรอกพ่อ เดี๋ยวสร้อยจะกลับเอง “พ่อของสร้อยปากคอสั่นทำตาดุ ที่ลูกสาวขัดขืนทำให้เสียหน้า”เดี๋ยวนี้กล้าขัดคำสั่งของพ่อแล้วรึนังลูกไม่รักดี มาคบมาหาไอ้สวะนี่อยู่ได้ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง มันน่า......”พ่อของสร้อยเงื้อมือจะตบแต่ ครูสมบูรณ์คว้าข้อมือห้ามไว้”อย่าครับ สร้อยยังเด็ก คุยดีๆก่อนครับ”เสียงของครูหนุ่มทุมนุ่มหวานและสุภาพ ฟังแล้วชวนเคลิ้ม แต่สร้อยยังสะบับสะบิ้งไม่ยอมไป”เอาเลยสิพ่อ พ่อจะตบจะตีสร้อยจะเอาเลือดหัวของสร้อยออกก็เชิญ แต่พ่อจะห้ามใจสร้อยไม่ได้หรอก” พ่อของสร้อยกัดฟันกรอดๆขยับจะมาตบสร้อย ครูสมบูรณ์ต้องเอาตัวขวางไว้ และบอกกับสร้อยให้ทำตาม”สร้อยกลับบ้านก่อนเถอะ แล้วผมจะคุยกับพ่อให้ไม่ทำโทษสร้อย ถ้าอยากมาที่นี่อีกผมจะพามาเอง”สร้อยหันไปมองครูหนุ่มแล้วหันมามองผม ที่ยืนอยู่อย่างงงๆเพราะตั้งตัวรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทัน ครูสมบูรณ์เดินเข้ามาหาผม”เอ่อ..ผมขอรับตัวสร้อยกลับก่อนน่ะครับ ตอนนี้พ่อของเธอกำลังโกทธ นายช่วยพูดหน่อยสิ ถ้าสร้อยไม่ยอมกลับอาจถูกลงโทษรุนแรงได้” เสียงของครูสมบูรณ์ทำเอาผมเคลิ้ม เลยทำตามที่บอก”สร้อยกลับไปก่อนเถอะ วันหลังค่อยมาใหม่น่ะ...อย่าให้เรื่องมันใหญ่โตไปกว่านี้เลย เดี๋ยวเราจะไม่ได้เจอกันอีก”สร้อยมองผมแล้วทำท่าลังเล “กลับเถอะสร้อย กลับกันก่อนน่ะ..”ครูสมบูรณ์เดินมายืนข้างๆบอกสร้อยเสียงนุ่มๆ ผมพยักหน้าให้ สร้อยจึงเดินตามครูหนุ่มไปขึ้นรถ ครูสมบูรณ์เปิดประตูให้และปิดเมื่อสร้อยเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว
....แต่พ่อของสร้อยยังยืนมองผมอย่างไม่พอใจ”เมื่อไหร่เอ็งจะเลิกยุ่งกับลูกสาวข้าว่ะ...”พ่อของสร้อยตวาดแล้วโยนกระดาษที่ถูกขยำมาตกตรงหน้าของผม อ้าวนั่นมันกระดาษที่ผมเขียนจดหมายไปนัดสร้อยมาหานี่ มิน่าเล่าพ่อของสร้อยถึงตามมาถูก”ต่อไปนี้น่ะ ข้าขอยื่นคำขาดกับเอ็ง ถ้าขืนมายุ่งกับสร้อยลูกสาวข้าอีก ข้าจะแจ้งตำรวจจับเอ็งเข้าคุกคอยดู” ผมมองหน้าพ่อของสร้อย”แต่ฉันรักสร้อยจริงๆน่ะ สิ้นหน้านานี่แนก็จะไปสู่ขอสร้อยแล้ว”พ่อของสร้อยหันรีหันขวาง ปากคอมือไม้สั่นด้วยความโมโห ”ชะ ชะ ชะ ชะ มึงน่ะเรอะจะเลี้ยงลูกของกูดีได้ บ้านของมึงก็จนเสียไม่มีจะยาไส้ จะสะเออะมาขอลูกสาวของกู ที่มึงทำทุกวันนี้ก็เหมือนดูถูกกูอยู่แล้ว”แต่เด็กมันรักกันมานานแล้วน่ะ พี่น่าจะเห็นใจมันบ้าง พี่ยิ่งห้ามมันก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่” พ่อของสร้อยหันมามองแล้วยิ้มเยาะ”ข้ารู้...แต่ลูกเอ็งน่ะมันไม่เหมาะสมกับลูกของข้า ข้าก็เหมือนพ่อแม่คนอื่นๆ อยากให้ลูกได้กับคนดีๆ แล้วลูกของเอ็งล่ะ มันดีพอไหม” ผมขยับจะพูดแต่ครูสมบูรณ์เดินมาจับแขนของผมและส่ายหน้าทำนองให้ผมอย่าพูดอะไร”นายเฉยๆไว้อย่าพูดอะไรตอนนี้ ไม่ดีกับนายหรอก”ผมงงๆและรู้สึกแปลกๆและเชื่อมันด้วย..
....ครูหนุ่มเดินไปบอกพ่อของสร้อยให้หยุดพูดและชวนกลับ พ่อของสร้อยดูเชื่อฟังและสุภาพกับครูคนนี้เหลือเกินท่าจะอยากได้เป็นเขยแน่ๆ เมื่อทั้งหมดกลับไปแล้ว ผมรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก”ปลงเสียเถอะลูกเอ๋ย...อย่าไปมัวใฝ่ฝันอยู่เลย ยังไงพ่อของเขาก็อยากให้ลูกของเขาได้กับครูรูปหล่อคนนั้นแน่”แม่พูดปลอบใจผม เจ้าคมก็เดินมาตบบ่า”ใช่พี่...ยื้อไปก็เท่านั้น ยิ่งพี่กับสร้อยยังคบกันต่อไป คนที่จะลำบากก็คือสร้อยนั่นแหละ”ผมมองเจ้าคมตาขวาง”หมายความว่าไงว่ะ ไอ้ตัวเงินตัวทองคม สร้อยจะลำบากอะไรถ้าอยู่กับกู”เจ้าคมส่ายหัวไม่พูด แม่มองผมอย่างเห็นใจ”ถ้าตัดใจได้ก็รีบทำเถอะ เอ็งอย่ามัวงมงายอยู่เลย ยังไงๆพ่อของสร้อยเขาก็ไม่เอาเอ็งเป็นเขยแน่นอน” ผมนั่งนิ่งอยู่นาน ผมไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก วันนี้ทุกคนอาจดูแครนผมทั้งหมู่บ้าน แต่ในอนาคตผมจะยิ่งใหญ่และอยู่เหนือทุกคนให้ได้ สร้อยจะต้องเป็นของผมคนเดียว ผมไม่ยอมให้ใครมาพรากเธอไปได้ ผมจะสู้ไม่ว่าไอ้ครูคนนั้นมันจะเหนือกว่าผมแค่ไหนก็ตาม ผมจะ สู้เพื่อรัก...แต่ตอนนี้ต้องเอาปลาไปขายเอาเงินมารักษาพ่อของผมก่อน....โปรดติดตามตอนต่อไปน่ะครับ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น